Skip to content Skip to footer

ทำไม ? การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานถึงสำคัญ

ตัวช่วยสำหรับคนมีลูกยากมีกี่วิธี และมีวิธีอย่างไรบ้าง

Happy couple hand holding white blank space

IUI ICSI IVF ตัวช่วยการรักษาภาวะมีลูกยาก คำตอบของคนอยากมีลูก

การแต่งงาน ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในชีวิตคู่ และเป็นจุดเริ่มต้นของการวางรากฐานสร้างครอบครัวที่ประกอบไปด้วย ‘พ่อ แม่ ลูก’ ดังนั้นการวางแผนครอบครัวจึงมีความสำคัญมาก ก่อนที่คู่รักจะตัดสินใจเข้าประตูวิวาห์ สิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญเช่นกัน คือการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน เพื่อเตรียมตัวให้พร้อม สำหรับคู่รักที่อยากมีลูกและเติมเต็มชีวิตครอบครัวให้สมบูรณ์

ทำไมคู่รักควรตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน 

ในปัจจุบันแนวโน้มการแต่งงานที่ช้าลง และประกอบกับการแต่งงานในช่วงอายุที่มากขึ้น อีกทั้งยังต้องเผชิญกับความเครียดในด้านของการทำงาน ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้สุขภาพของคู่รักหลายคู่ต้องเผชิญกับภาวะมีบุตรยาก หรือมีลูกยาก ดังนั้นการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง จึงเป็นการเช็คความพร้อมและความสมบูรณ์ของร่างกายหรือความบกพร่องทางพันธุกรรม

หากคู่รักมีสุขภาพที่ดี มีความพร้อมและความสมบูรณ์ของร่างกาย ก็จะส่งผลต่อความสมบูรณ์ในการตั้งครรภ์ และทำให้ทารกมีสุขภาพแข็งแรง นอกจากนี้แล้วการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ในกรณีที่คู่รักเผชิญกับภาวะมีบุตรยาก หรือเป็นโรคด้านพันธุกรรม จะช่วยทำให้คู่รักสามารถปรึกษาร่วมกับแพทย์ วางแผนการรักษาและการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับบุตรได้ถูกทาง         

ประโยชน์การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน

1.ลดความเสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ช่วยลดความเสี่ยงโอกาสการส่งผ่านโรคสู่กันและกัน และลดความเสี่ยงการเกิดโรคแทรกซ้อนไปสู่คู่ชีวิต อีกทั้งลดการส่งผ่านโรคจากแม่สู่ลูกน้อยได้ด้วยเช่นกัน  เพราะโอกาสการส่งผ่านโรคสู่กันและกันจะผ่านการมีเพศสัมพันธ์และผ่านทางเลือด เนื่องจากบางโรคอาจจะไม่แสดงอาการเด่นชัดในระยะแรก ๆ แต่สามารถตรวจพบได้จากการตรวจเลือด เช่น โรคซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบ หรือกระทั่งโรคเอดส์ เป็นต้น

2.หลีกเลี่ยงการถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรม

โรคทางพันธุกรรม (Genetic Disorders)  คือ โรคที่ถ่ายทอดจากพ่อหรือแม่ โดยมีหน่วยพันธุกรรม หรือยีนเป็นตัวควบคุมการถ่ายทอดลักษณะต่างๆ ของสิ่งมีชีวิต ซึ่งการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ทำให้คู่รักสามารถหลีกเลี่ยงการถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรมไปยังลูกหลานได้ เช่น ฮีโมฟีเลีย เป็นโรคเลือดไหลไม่หยุด หรือเลือดออกง่าย ซึ่งเกิดจากความผิดของโครโมโซม x พบมากในเพศชาย  โรคธาลัสซีเมีย โรคฮันติงตันเป็นต้น จะเห็นว่าประโยชน์การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานช่วยทำให้คู่รักสามารถประเมินความเสี่ยงของการมีบุตรที่เป็นโรคร้ายแรง ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะมีลูกหรือไม่ หรือหากมีลูกที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคพันธุกรรม ควรวางแผนรับมืออย่างไรกับการรักษาและค่าใช้จ่ายที่สูง

3.ประเมินความพร้อมภาวะเจริญพันธุ์

การที่คู่รักมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะอยู่ในภาวะพร้อมเจริญพันธุ์ได้  เพราะมีคู่รักจำนวนไม่น้อยที่อยากมีลูก แต่กลับประสบกับปัญหามีลูกยาก ดังนั้นการตรวจสุขภาพทั้งของฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย จะช่วยให้ทั้งคู่ได้เตรียมการรับมือ หรือเตรียมความพร้อมในกรณีที่มีแนวโน้มว่า ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะประสบปัญหาภาวะมีบุตรยาก และการประเมินความพร้อมภาวะเจริญพันธุ์ จะช่วยในการวางแผนครอบครัวได้เป็นอย่างดี เพราะทำให้คู่รักวางแผนรับมือหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดประสบกับภาวะมีบุตรยาก 

4.ทดสอบความเข้ากันได้ของกลุ่มเลือด

การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานยังช่วยให้ คู่รักที่อยากมีลูกสามารถทดสอบความเข้ากันของกลุ่มเลือดได้ด้วย  ในกรณีนี้คู่รักหลายๆ คู่อาจมองว่าการทดสอบความเข้ากันของกลุ่มเลือดไม่มีความจำเป็น แต่จริงๆ แล้วการรู้ล่วงหน้าว่าความเข้ากันได้ของกลุ่มเลือด จะทำให้รู้ล่วงหน้าของการเกิดอาการ Rhesus Disease  ซึ่งเป็นภาวะที่มารดาและทารกมีหมู่เลือด Rh (Rhesus) ไม่ตรงกัน หากหมู่เลือดของมารดาเป็น Rh- (Rh-negative หรือหมู่เลือดอาร์เอชลบ)  แต่หมู่เลือดของทารกในครรภ์เป็น Rh+ (Rh-positive หรือหมู่เลือดอาร์เอชบวก) จะส่งผลให้เกิดภาวะความไม่เข้ากันของหมู่เลือด (Rh Incompatibility) ซึ่งอาจทำให้ทารกเป็นโรคโลหิตจางหรือดีซ่าน โรคดีซ่าน (Jaundice) ส่งผลให้ทารกมีภาวะตัวเหลือง ภาวะเซื่องซึม (Lethargy) ภาวะกล้ามเนื้อตึงตัวน้อย (Hypotonia)  แต่อาการเหล่านี้จะบรรเทาลงหลังได้รับการรักษาภาวะความไม่เข้ากันของหมู่เลือด

หากไม่ตรวจสุขภาพก่อนแต่งจะเกิดอะไรขึ้น

หากไม่ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน คู่รักอาจมีความเสี่ยงหากมีโรคที่แฝงซ่อนอยู่แล้วไม่ได้รับการรักษา โรคอาจลุกลามหรือรุนแรงขึ้น และอาจทำให้ไม่สามารถมีบุตรได้ตามที่ต้องการ หรือเมื่อตั้งครรภ์ไปแล้วอาจพบภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งอาจส่งผลให้ทารกเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ เกิดภาวะแท้ง หรือคลอดก่อนกำหนดได้

โรคอะไรบ้างที่สามารถแพร่ไปสู่คู่รักหรือลูกของคุณ

·  โรคเอดส์

·  โรคซิฟิลิส

·  โรคโลหิตจางหรือธาลัสซีเมีย

·  โรคหัดเยอรมัน

·  ไวรัสตับอักเสบบี

ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานตรวจอะไรบ้าง

การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน หลายคนเข้าใจว่าเป็นการตรวจสุขภาพทั่วไป แต่จริงๆ แล้วเป็นการตรวจที่ลงลึกถึงระดับพันธุกรรม ซึ่งช่วยให้คู่รักที่อยากมีลูก หรือมีลูกยาก ได้มีการวางแผนได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม โดยขั้นตอนการตรวจสุขภาพมีรายละเอียด ดังนี้

·เริ่มตั้งแต่ไปพบแพทย์สูตินรีแพทย์เวชศาสตร์เจริญพันธุ์เพื่อวางแผนครอบครัว แพทย์จะทำการซักประวัติของคู่รักอย่างละเอียด  จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการตรวจร่างกาย ตามโปรแกรมที่ทางโรงพยาบาลและคลินิกวางแผนครอบครัวกำหนด

·การตรวจภายในสำหรับคู่รัก เป็นการเตรียมสุขภาพของฝ่ายหญิงก่อนตั้งครรภ์ด้วยการตรวจภายใน ตรวจเช็คความสมบูรณ์มดลูกและรังไข่ (Ultrasound Transvaginal) รวมถึงตรวจเชื้อ HPV การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (ThinPrep และ HPV DNA) เพื่อป้องกันภาวะทารกเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ เจริญเติบโตช้า การคลอดก่อนกำหนดหรือเกิดภาวะแท้งลูก

·การตรวจหาภูมิคุ้มกันหัดเยอรมัน วิธีการนี้เป็นการป้องกันการติดเชื้อหัดเยอรมันจากแม่สู่ลูกในครรภ์ ซึ่งการติดเชื้อดังกล่าวมีผลทำให้ทารกคลอดออกมาพร้อมความผิดปกติ ดังนั้นหากฝ่ายหญิงยังไม่มีภูมิคุ้มกัน แพทย์จะแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันก่อนตั้งครรภ์

·การตรวจโรคทางพันธุกรรม  อาทิ โลหิตจาง โดยเฉพาะธาลัสซีเมีย จากข้อมูลทางการแพทย์พบว่าคนไทยกว่า 45% เป็นพาหะธาลัสซีเมีย หรือกระทั่งโรคจากพันธุกรรมแฝงจากพ่อแม่สู่ลูกรัก ที่เสี่ยงทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น การทำงานของตับและหัวใจผิดปกติ ทารกตัวเล็ก เป็นต้น

·การตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เนื่องจากโอกาสที่ลูกติดเชื้อขณะคลอดจากแม่มีมากถึง 90%  ดังนั้นหากฝ่ายหญิงยังไม่มีภูมิคุ้มกัน แพทย์จะแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันก่อนตั้งครรภ์  

เมื่อตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานแล้ว สำหรับคู่รักที่มีโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โลหิตจาง ไทรอยด์ โรคหัวใจ ซี่งมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ แพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญการจะเป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิดและถูกต้อง เพราะเมื่อเกิดการตั้งครรภ์จะเป็นอันตรายต่อแม่และเด็กในครรภ์ได้ สำหรับผู้ที่มีภาวะมีบุตรยากหรือมีลูกยาก แพทย์ดำเนินการรักษาตามขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การตรวจน้ำเชื้อ (Sperm) ในฝ่ายชาย และตรวจไข่ในฝ่ายหญิง เพื่อเพิ่มโอกาสมีบุตรได้ง่ายขึ้นจากการได้รับคำแนะนำเรื่องวันตกไข่ จนไปถึงระดับการรักษาโดยใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำ IUI (Intra – Uterine Insemination) หรือการอิ๊กซี่ (Intracytoplasmic Sperm Injection) เป็นต้น

การตรวจสุขภาพคู่รักก่อนแต่งงาน เป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ และถือเป็นอีกสิ่งที่สำคัญมากสำหรับคู่รัก เพื่อให้คู่รักได้ทราบความพร้อมโดยเฉพาะคู่รักที่อยากมีลูกและต้องเผชิญกับภาวะมีบุตรยาก  หากคุณคือคู่รักที่ต้องการปรึกษาเกี่ยวกับภาวะมีลูกยาก  Genesis Fertility Center  คลินิกสำหรับผู้มีบุตรยาก โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยในการเจริญพันธ์ุ เพื่อแก้ไขปัญหาผู้ที่กำลังประสบภาวะมีลูกยาก ตั้งแต่การตรวจหาสาเหตุ ตลอดจนการเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสม คุ้มค่าและมีโอกาสเห็นผลสูงสุด

สามารถปรึกษาได้ที่

Call Center 097-484-5335
เวลาทำการ : จันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 20.00 น. หรือ
เสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.00 – 20.00 น.