การตรวจ AMH มีประโยชน์อย่างไรในการทำ icsi
การตรวจ AMH กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จทำ ICSI
คู่รักที่มีบุตรยาก และอยากมีลูก หลายคู่ต่างใฝ่ฝันที่จะสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ เทคโนโลยีทางการแพทย์หรือการทำ icsi เปรียบเสมือนแสงสว่างช่วยให้ความฝันการมีลูกนั้นเป็นจริง แต่เส้นทางสู่ความสำเร็จอาจมีปัจจัยหลายประการที่มีอิทธิพลต่อการตั้งครรภ์
หนึ่งในนั้นก็คือระดับฮอร์โมน AMH ในร่างกายของผู้หญิง เพราะ AMH เป็นเหมือนเข็มทิศนำทาง บ่งบอกถึง “ปริมาณไข่สำรอง” ของผู้หญิง และเพื่อพาคู่รักไขข้อข้องใจ มาทำความรู้จักกับบทบาทสำคัญของ AMH และร่วมค้นพบว่า การตรวจ AMH นั้น สำคัญอย่างไรต่อการทำ ICSI เริ่มต้นกันเลย
Anti-Müllerian Hormone (AMH) คืออะไร?
Anti-Müllerian Hormone (AMH) หรือฮอร์โมนแอนตี้มูลเลอเรียน เรียกสั้นๆว่า AMH คือฮอร์โมนที่ผลิต โดยเซลล์ granulosa ในถุงไข่ของผู้หญิง เป็นตัวบ่งบอกความสามารถในการทำงานของรังไข่หรือบอกจำนวนไข่ที่สามารถผลิตได้ ฮอร์โมน AMH จะมีค่าสูงขึ้น และลดลงเรื่อยๆ เมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัว และจะลดลงจนหมดไปเมื่อมีอายุมากขึ้นหรือเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน
ฮอร์โมนแอนตี้มูลเลอเรียน สามารถมีค่าได้ 1.5 ถึง 4 ng/Ml
ฮอร์โมนแอนตี้มูลเลอเรียน มีค่าต่ำกว่า 1.5 ng/Ml ถือว่าต่ำ หมายถึงการมีจำนวนไข่อยู่ค่อนข้างน้อย เสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยาก
ฮอร์โมนแอนตี้มูลเลอเรียนมากกว่า 4 ng/Ml ถือว่าสูง มีความเสี่ยงต่อภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบหรือ PCOS (Polycystic ovary syndrome) และเสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยาก
ตรวจ AMH มีประโยชน์อย่างไรในการทำ icsi
1.ประเมินโอกาสในการตอบสนองต่อยากระตุ้นไข่
แพทย์จะทำการทดสอบระดับฮอร์โมนแอนตี้มูลเลอเรียน (Anti-Mullerian Hormone – AMH) AMH กับผู้หญิงที่มีบุตรยากและยากมีลูก และเตรียมตัวเข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว โดยจะประเมินการตอบสนองต่อยากระตุ้นไข่ ดังนี้
ค่า AMH สูง บ่งบอกถึงจำนวนไข่ที่เหลืออยู่มาก รังไข่มีสมรรถภาพดี มีโอกาสตอบสนองต่อยากระตุ้นไข่สูง
ค่า AMH ต่ำ บ่งบอกถึงจำนวนไข่ที่เหลืออยู่น้อย รังไข่มีสมรรถภาพต่ำ มีโอกาสตอบสนองต่อยากระตุ้นไข่ต่ำ
การพิจารณาประเมินโอกาสในการตอบสนองต่อยากระตุ้นไข่ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ประกอบ ดังนี้
ผู้หญิงที่มีอายุน้อย จะมีโอกาสตอบสนองต่อยากระตุ้นไข่ดีกว่าผู้หญิงที่มีอายุมาก ส่วนผู้หญิงที่เคยตั้งครรภ์มาแล้ว จะมีโอกาสตอบสนองต่อยากระตุ้นไข่ดีกว่าผู้หญิงที่ไม่เคยตั้งครรภ์
ผู้หญิงที่มีรอบเดือนสั้นหรือไม่สม่ำเสมอ จะมีโอกาสตอบสนองต่อยากระตุ้นไข่ต่ำกว่าผู้หญิงที่มีรอบเดือนปกติ และแพทย์อาจพิจารณาจากจำนวนฟองน้ำในรังไข่ ร่วมกับค่า AMH เพื่อประเมินการตอบสนองต่อยากระตุ้นไข่
โรคประจำตัว โรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ โรคความดันโลหิตสูง อาจส่งผลต่อการตอบสนองต่อยากระตุ้นไข่
2.คาดการณ์จำนวนไข่ที่สามารถเก็บได้
การตรวจวัดระดับฮอร์โมนแอนตี้มูลเลอเรียน (Anti-Mullerian Hormone – AMH) เป็นการตรวจเลือดที่ใช้คาดการณ์จำนวนไข่ที่เหลืออยู่ในรังไข่ของผู้หญิง หรือผู้ทำเด็กหลอดแก้ว แต่ไม่สามารถบอกจำนวนไข่ที่แน่นอน ผลการตรวจ AMH นั้นแพทย์จะนำไปประกอบกับปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อายุ ประวัติการมีบุตร ลักษณะของรอบเดือน และผลการตรวจอัลตราซาวด์ เพื่อประเมินการเจริญพันธุ์และโอกาสในการตั้งครรภ์ โดยการคาดการณ์จำนวนไข่แพทย์จะพิจารณาจากค่า AMH ร่วมกับปัจจัยอื่นๆ ดังนี้
ค่า AMH สูง บ่งบอกถึงจำนวนไข่ที่เหลืออยู่มาก โอกาสในการเก็บไข่ได้จำนวนมาก และโอกาสในการตั้งครรภ์จากการทำ icsi สูง
ค่า AMH ต่ำ บ่งบอกถึงจำนวนไข่ที่เหลืออยู่น้อย โอกาสในการเก็บไข่ได้จำนวนน้อย และโอกาสในการตั้งครรภ์จากการทำ icsi ต่ำ
3.การคาดการณ์จำนวนไข่ที่สามารถเก็บได้จากการตรวจ AMH
ค่า AMH 3.5 ng/ml อายุ 25 ปี: คาดการณ์ว่าสามารถเก็บไข่ได้ประมาณ 10-15 ฟอง
ค่า AMH 1.5 ng/ml อายุ 35 ปี: คาดการณ์ว่าสามารถเก็บไข่ได้ประมาณ 5-8 ฟอง
ค่า AMH 0.5 ng/ml อายุ 40 ปี: คาดการณ์ว่าสามารถเก็บไข่ได้ประมาณ 1-3 ฟอง
ประเมินโอกาสในการตั้งครรภ์จาก ค่า AMH
แพทย์จะพิจารณาการตรวจวัดระดับฮอร์โมนแอนตี้มูลเลอเรียน (Anti-Mullerian Hormone – AMH) ค่า AMH ดังนี้
ค่า AMH สูง: บ่งบอกถึงจำนวนไข่ที่เหลืออยู่มาก รังไข่มีสมรรถภาพดี มีโอกาสตั้งครรภ์สูง
ค่า AMH ต่ำ: บ่งบอกถึงจำนวนไข่ที่เหลืออยู่น้อย รังไข่มีสมรรถภาพต่ำ มีโอกาสตั้งครรภ์ต่ำ
โดยตัวอย่างการประเมินโอกาสในการตั้งครรภ์จากค่า AMH
ค่า AMH 3.5 ng/ml อายุ 25 ปี: มีโอกาสตั้งครรภ์สูง ประมาณ 60-70% ต่อรอบการทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi ทำ ivf
ค่า AMH 1.5 ng/ml อายุ 35 ปี: มีโอกาสตั้งครรภ์ปานกลาง ประมาณ 40-50% ต่อรอบการทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi ทำ ivf
ค่า AMH 0.5 ng/ml อายุ 40 ปี: มีโอกาสตั้งครรภ์ต่ำ ประมาณ 20-30% ต่อรอบการทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi ทำ ivf
4.เลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม
ผู้หญิงที่มีระดับ AMH ต่ำ หรือเข้าข่ายภาวะมีบุตรยาก อาจมีโอกาสในการตั้งครรภ์จากการทำ icsi น้อยกว่า แพทย์อาจแนะนำให้ใช้วิธีการอื่นเพิ่มเติม วางแผนการรักษาภาวะมีบุตรยาก
วางแผนการรักษาที่เหมาะสม การทดสอบ AMH ช่วยให้คู่รักตัดสินใจจะดำเนินการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi หรือ ทำ ivf เพื่อเลือกวิธีรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บไข่ ผู้หญิงที่มีภาวะมีบุตรยาก ทำเด็กหลอดแก้วที่มีค่า AMH ต่ำ อาจพิจารณาเก็บไข่ไข่เมื่อยังอายุน้อย (Egg Freezing) การทำเด็กหลอดแก้วจากไข่บริจาค (Donor Egg IVF)
ผู้ที่มีบุตรยากที่เหมาะสมกับการตรวจ AMH
ผู้หญิงอายุต่ำกว่า 35 ปี ที่พยายามตั้งครรภ์มานานกว่า 12 เดือน หรือผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไป ที่พยายามตั้งครรภ์มานานกว่า 6 เดือน
ผู้หญิงที่ มีประจำเดือนมาไม่ปกติ เช่น รอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือมีประจำเดือนมาน้อย อาจเป็นสัญญาณของภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด (POF) ซึ่งการตรวจ AMH ช่วยให้แพทย์วินิจฉัย POF ได้เร็วขึ้น
มีภาวะ PCOS (Polycystic Ovary Syndrome) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้หญิงที่มีบุตรยาก มักมีฮอร์โมนเพศชายสูง ไข่ตกไม่สม่ำเสมอ การตรวจ AMH ช่วยให้แพทย์ประเมินความรุนแรงของ PCOS และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
เคยได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีบริเวณอุ้งเชิงกราน การรักษาเหล่านี้อาจส่งผลต่อรังไข่ ทำให้มีไข่เหลืออยู่น้อยลง การตรวจ AMH ช่วยให้แพทย์ประเมินสภาพรังไข่ และวางแผนการรักษาที่มีบุตร
คำถามที่พบบ่อย
การทดสอบ AMH จำเป็นสำหรับผู้หญิงหรือไม่? การทำสอบ AMH ไม่ใช่สิ่งที่แพทย์ทำการทดสอบตามปกติ หากผู้หญิงที่มีอายุเกิน 30 ปีและประสบปัญหาในการตั้งครรภ์ หรือเข้าข่ายภาวะมีบุตรยาก แพทย์ด้านภาวะเจริญพันธุ์อาจขอให้คุณตรวจ AMH วิธีนี้จะช่วยให้แพทย์ตัดสินใจรักษาได้ว่าคุณมีไข่สำรองที่ดีต่อสุขภาพสำหรับการปฏิสนธิหรือไม่
การทดสอบ AMH สามารถผิดได้หรือไม่?
AMH เป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้เข้าใจว่ามีไข่เหลืออยู่กี่ฟองสำหรับผู้หญิง ฮอร์โมนอาจได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย การศึกษาแสดงให้เห็นว่ารอบประจำเดือนของผู้หญิง และความผันผวนของฮอร์โมนไม่ส่งผลกระทบต่อผลการทดสอบ แต่มีปัจจัยภายนอกที่สามารถส่งผลกระทบต่อผลทดสอบ เช่น การใช้ยาคุมกำเนิด ก็สามารถไปกดระดับ AMH ได้
การตรวจ AMH เป็นเพียงข้อมูลประกอบหนึ่งในการวินิจฉัยและวางแผนการรักษา แพทย์จะพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อายุ ประวัติการรักษา ผลตรวจฮอร์โมนอื่นๆ เพื่อให้ได้แผนการรักษาภาวะมีบุตรยาก ทำ icsi เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
หากคุณเป็นคู่รักที่กำลังตัดสินใจทำเด็กหลอดแก้ว ฝากไข่ การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเจริญพันธุ์ และการตรวจ AMH จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการวินิจฉัยสาเหตุ และวางแผนการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
เพื่อเตรียมตัวทํา icsi ivf thailand กับ Genesis Fertility Center หรือ GFC ศูนย์รวมบริการทางการแพทย์สำหรับมีบุตรยาก มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำหน้ามาช่วยการเจริญพันธ์ให้กับคู่รักที่มีบุตรยาก ด้วยความเชี่ยวชาญที่ผสานความใส่ใจของทีมแพทย์และบุคลากรในการทำกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ด้วยวิธี icsi ราคา 190,000บาท ราคาฝากไข่ หรือ egg freezing 150,000 บาท และมีบริการแบ่งเกรดตัวอ่อน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ :
Call Center 097-484-5335
เวลาทำการ : จันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 20.00 น. หรือ
เสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.00 – 20.00 น.