เผชิญกับ pcos เตรียมตัวเองให้พร้อมก่อนทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi โรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) เป็นหนึ่งในภาวะสุขภาพการเจริญพันธุ์ของผู้หญิงที่พบบ่อยที่สุด ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้หญิงหลายล้านคนทั่วโลก PCOS ไม่ได้เป็นโรคที่ร้ายแรง แต่อาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์ได้ ด้วยเทคโนโลยีช่วยภาวะเจริญพันธุ์ที่ก้าวล้ำ การทำเด็กหลอดแก้ว ICSI ivf และการดูแลรักษาสุขภาพที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้ รู้จักภาวะ PCOS ก่อนทำ icsi ivf แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่ม PCOS ที่มีประจำเดือนมาตรงทุกรอบ การนับวันไข่ตกโดยการอัลตราซาวด์ จะมีความแม่นยำกว่าการนับไข่ตกโดยการนับวัน กลุ่ม PCOS ที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ คนกลุ่มนี้มักมีฮอร์โมนเพศชายสูง หรือมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน โดยการรักษาจะทำการกระตุ้นไข่ให้มีไข่ตก และนับวันไข่ตก โดยการกระตุ้นไข่อาจจะใช้ยากิน หรือยาฉีดร่วมด้วย เพื่อการตอบสนองของไข่ วิธีรักษาภาวะ PCOS ก่อนทำเด็กหลอดแก้ว ว่าที่คุณแม่ สามารถจัดการกับอาการต่าง ๆ ได้มากมายผ่านการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลดความเครียด ล้วนสามารถช่วยลดผลกระทบที่ PCOS มีต่อร่างกายได้อย่างมาก…
อยากมีลูกทำความเข้าใจภาวะ PCOS มีลูกยากแต่ไม่ใช่เรื่องยากที่จะรักษา เคยรู้สึกกังวลกับประจำเดือนที่ไม่สม่ำเสมอ สิวที่ไม่ยอมหาย หรือน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้หรือไม่ อาการเหล่านี้ ในบางครั้งผู้หญิงอาจรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ จนกว่าตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน หรืออยากมีลูก เพราะ นั่นคือ สัญญาณของภาวะ PCOS ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ และส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน รวมถึงความฝันอยากมีลูกได้ อยากมีลูก รู้จักภาวะ PCOS คืออะไร ภาวะ PCOS (Polycystic Ovary Syndrome) หรือถุงน้ำรังไข่หลายใบ เป็นภาวะทางการแพทย์ที่พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ เกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้รังไข่ผลิตฮอร์โมนเพศชาย หรือฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน หรืออินซูลินมากเกินไป ส่งผลให้เกิดถุงน้ำเล็กๆ จำนวนมากในรังไข่ และทำให้หยุดการตกไข่ โดยผู้หญิงที่เป็นภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ ส่วนมากจะอยู่ในช่วงอายุ 20 - 30 ปี หรืออยู่ในวัยเจริญพันธุ์มากถึง 15% นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้หญิงที่อยากมีลูก และเป็นโรคอ้วน หรือบุคคลอื่นในครอบครัวทางสายเลือดที่มีภาวะ PCOS PCOS ส่งผลต่อการตกไข่อย่างไร สำหรับผู้ที่ตรวจร่างกายก่อนแต่งงาน หรือผู้ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ…
รู้จักภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัย และวิธีการรักษา icsi เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ “ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัย” หรือที่รู้จักกันก็คือ Premature Ovarian Insufficiency (POI) เป็นภาวะที่ทำให้คู่รักที่ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน และทำเด็กหลอดแก้ว หลายคนรู้สึกกังวลกับการรักษา และโอกาสการตั้งครรภ์ แต่ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบัน โอกาสในการมีบุตรของคู่รักเหล่านี้ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะเทคนิค icsi ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัยที่มีประสิทธิภาพ ทำเด็กหลอดแก้ว รู้จักความล้มเหลวของรังไข่ก่อนวัยอันควร ตามปกติผู้หญิงที่มีอายุเฉลี่ยของวัยหมดประจำเดือนตามธรรมชาติ จะอยู่ที่ 50 - 51 ปี แต่สำหรับผู้หญิงที่มีวัยหมดประจำเดือนในช่วงอายุระหว่าง 45 ถึง 55 ปี ถือว่าเป็นเรื่องปกติ วัยหมดประจำเดือน คือ การที่คนเราหยุดมีประจำเดือน และรังไข่หยุดปล่อยไข่ และหยุดสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน หากแพทย์ใช้คำว่า "วัยหมดประจำเดือนเร็ว" จะเกิดขึ้นระหว่างอายุ 40 - 45 ปี และหากใช้คำว่า "วัยหมดประจำเดือนโดยการผ่าตัด" จะใช้เมื่อมีการนำรังไข่ออก เช่น เพื่อป้องกันหรือรักษามะเร็ง ก่อนที่บุคคลนั้นจะเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนตามธรรมชาติ ) สำหรับผู้ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ…
เลือกสเปิร์มทำ icsi อย่างไร เพื่อการปฏิสนธิที่สมบูรณ์
การทำ icsi คือ เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่คัดเลือกสเปิร์มที่มีคุณภาพดีที่สุดเพียงหนึ่งตัว มาฉีดเข้าไปในไข่โดยตรง เพื่อเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิ การเลือกสเปิร์มที่เหมาะสมจึงเป็นขั้นตอนสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคู่รักที่ทำเด็กหลอดแก้วด้วยการทำ icsi
เหตุผลที่ต้องเลือกสเปิร์มที่แข็งแรงทำ icsi นอกจากช่วยเพิ่มโอกาสการผสมกับไข่และเกิดการปฏิสนธิได้สูง ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของตัวอ่อนที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม และเหตุผลสำคัญเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ เพราะการมีตัวอ่อนที่แข็งแรง และสมบูรณ์ จะช่วยให้การตั้งครรภ์ราบรื่น
สเปิร์มมีรูปร่างเป็นอย่างไร และทำหน้าที่อะไรในการทำ icsi?
สเปิร์ม คือ เซลล์สืบพันธุ์เพศชาย ซึ่งมีหน้าที่หลักในการปฏิสนธิกับไข่ รูปร่างของตัวอสุจิประกอบด้วยสามส่วน ศีรษะ คอ และหาง โดยที่หางจะช่วยให้สามารถเดินทางไปยังไข่ได้ ส่วนคอซึ่งเป็นที่เก็บไมโตคอนเดรีย ทำหน้าที่เป็นมอเตอร์ และให้พลังงานในการเคลื่อนไหวของหาง และส่วนหัว เป็นที่เก็บข้อมูลทางพันธุกรรม
สเปิร์มถูกสร้างขึ้นในอัณฑะผ่านกระบวนการแบ่งเซลล์ที่เรียกว่าไมโอซิส ซึ่งจะช่วยลดปริมาณพันธุกรรม หลังจากผ่านท่อต่าง ๆ แล้ว จะถูกเก็บไว้ในท่อน้ำอสุจิจนกว่าจะถูกปล่อยออกมาระหว่างการหลั่งอสุจิ และเคลื่อนไปทางท่อนำไข่เพื่อพบกับไข่
ตามพันธุศาสตร์ สเปิร์มจะเป็นเซลล์เดี่ยว ซึ่งประกอบด้วย โครโมโซม 23 โครโมโซม ครึ่งหนึ่งของสารพันธุกรรมที่จำเป็นในการสร้างไซโกต นอกจากนี้เซลล์อสุจิจะกำหนดเพศของทารก ขึ้นอยู่กับว่าทารกมีโครโมโซม X (เพศหญิง) หรือ Y (ชาย) ซึ่งคู่รักสามารถตรวจโครโมโซมมีจำนวนผิดปกติหรือมีโครงสร้างผิดปกติได้
ลักษณะของสเปิร์มที่ถูกคัดเลือกทำเด็กหลอดแก้ว …
สิ่งที่ผู้ทำ icsi ทำเด็กหลอดแก้ว ควรรู้ก่อนย้ายตัวอ่อน “การย้ายตัวอ่อน” นับว่าเป็นขั้นตอนสุดท้าย และสำคัญที่สุดในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi ทำ ivf จึงทำให้คู่รักที่อยากมีลูกหลายๆ คู่ต่างตั้งตารอคอยให้ถึงวันนี้เร็วๆ ดังนั้นการเตรียมตัวก่อนย้ายตัวอ่อน ทั้งร่างกายและจิตใจจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อช่วยให้ตัวอ่อนสามารถฝังตัวได้อย่างสมบูรณ์ ลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ และเติบโตเป็นทารกในครรภ์ได้อย่างแข็งแรง สิ่งที่ผู้ทำ icsi ทำ ivf ควรรู้ก่อนย้ายตัวอ่อน ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการย้ายตัวอ่อน แพทย์จะทำการประเมินความพร้อมการทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi ทำ ivf โดยแพทย์จะทำการตรวจร่างกาย ตรวจเลือด และอัลตร้าซาวด์เพื่อประเมินความพร้อมของร่างกาย และโพรงมดลูก ซึ่งผนังมดลูกของฝ่ายหญิงควรจะมีความหนาตั้งแต่ 7 มิลลิเมตรขึ้นไป และไม่ควรเกิน 14 มิลลิเมตร มีลักษณะเป็นสามชั้น แพทย์อาจมีการปรับขนาดยา หรือชนิดของยาที่ใช้ในการเตรียมตัว เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายในการ ทำ icsi ทำ ivf โดยมีทั้งยารับประทาน และยาที่สอดใส่ทางช่องคลอด เพื่อเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูกก่อนถึงวันที่ย้ายตัวอ่อน 5 วัน หากแพทย์อัลตร้าซาวด์แล้วสงสัยว่า…
6 สิ่งที่ต้องทำ และ 6 สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหลังทำ ICSI เมื่อผ่านกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว หรือการทำ ICSI ไปแล้ว ยังมีอีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่คู่รักไม่ควรมองข้าม นั่น คือ การดูแลสุขภาพหลังทำ icsi เพราะการดูแลสุขภาพในช่วงนี้ เปรียบเสมือนการวางรากฐานสำคัญสู่การตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์ และปลอดภัยของว่าที่คุณแม่ ทำไมต้องดูแลสุขภาพหลังทำ icsi ร่างกายของฝ่ายหญิงที่ผ่านกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi ผลลัพธ์ที่ตามมาฮอร์โมนต่างๆ จะเกิดความเปลี่ยนแปลง ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน ไม่ว่าจะเป็น ภาวะแท้งบุตร ภาวะรังไข่โตเกินขนาด และภาวะติดเชื้อ นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นฟูจากกระบวนการ ICSI ซึ่งจะสร้างความฝันอันยิ่งใหญ่ให้เป็นจริงให้คู่รักได้สัมผัสลูกน้อย 6 สิ่งที่ต้องทำหลังทำ icsi 1 . พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากขั้นตอนการทำ icsi และเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ โดยหลังทำ ICSI ควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้ 8-10 ชั่วโมงต่อคืนในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก ทำใจให้สบายๆ หาหนังสือดีๆ สักเล่มสำหรับอ่าน…
ข้อดี ข้อจำกัดในการตรวจ โครโมโซมตัวอ่อน เจาะลึกข้อดีและข้อจำกัดการตรวจโครโมโซมตัวอ่อนความหวังของการมีลูก เทคโนโลยีการตรวจโครโมโซมตัวอ่อน ซึ่งปัจจุบันมีทั้งการตวรจแบบ NGS และการตรวจแบบ PGT เปรียบเสมือนเข็มนำทางคู่รัก ที่กำลังจะเข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว icsi ivf ให้มีลูกได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ทำไมการตรวจโครโมโซมตัวอ่อนจึงมีความสำคัญกับคู่รัก แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อจำกัดที่เกิดขึ้นในบางประการที่คู่รักควรรู้ก่อนตรวจ บทความนี้ จะพาคู่รักหลายๆ คู่ ที่ควรตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน หรือผู้ที่ทำเด็กหลอดแก้ว ไปได้ทำความรู้จักข้อดี และข้อจำกัดการตรวจโครโมโซม และควรตัดสินใจอย่างไร มาเริ่มกันเลย การตรวจโครโมโซมตัวอ่อน (NGS) คืออะไร? NGS หรือ Next Generation Sequencing เป็นเทคโนโลยีทางพันธุกรรมที่ใช้ตรวจสอบความผิดปกติของโครโมโซมในตัวอ่อน โดยการนำเซลล์บางส่วนจากตัวอ่อนมาตรวจวิเคราะห์ลำดับดีเอ็นเอ หรือเบส ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่เล็กที่สุดของโครโมโซม โดยสามารถตรวจความผิดปกติของโครโมโซมครอบคลุม 24 โครโมโซมได้ในครั้งเดียว และที่สำคัญมีความแม่นยำสูง อัตราการเกิดการผิดพลาดต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับเทคนิคอื่นๆ ข้อดีของการตรวจโครโมโซมตัวอ่อน 1.การคัดเลือกตัวอ่อนที่มีคุณภาพดีขึ้น การตรวจโครโมโซมตัวอ่อน จะช่วยคัดแยกตัวอ่อนที่มีโครโมโซมปกติ และแยกตัวอ่อนที่ไม่สามารถพัฒนาเป็นทารกที่แข็งแรงได้ โดยการประเมินลักษณะทางรูปร่างของตัวอ่อน (Morphological Assessment) ทั้งการแบ่งเซลล์ ตัวอ่อนที่มีการแบ่งเซลล์สม่ำเสมอ มีจำนวนเซลล์เหมาะสมตามระยะเวลา…
การตรวจ AMH มีประโยชน์อย่างไรในการทำ icsi การตรวจ AMH กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จทำ ICSI คู่รักที่มีบุตรยาก และอยากมีลูก หลายคู่ต่างใฝ่ฝันที่จะสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ เทคโนโลยีทางการแพทย์หรือการทำ icsi เปรียบเสมือนแสงสว่างช่วยให้ความฝันการมีลูกนั้นเป็นจริง แต่เส้นทางสู่ความสำเร็จอาจมีปัจจัยหลายประการที่มีอิทธิพลต่อการตั้งครรภ์ หนึ่งในนั้นก็คือระดับฮอร์โมน AMH ในร่างกายของผู้หญิง เพราะ AMH เป็นเหมือนเข็มทิศนำทาง บ่งบอกถึง "ปริมาณไข่สำรอง" ของผู้หญิง และเพื่อพาคู่รักไขข้อข้องใจ มาทำความรู้จักกับบทบาทสำคัญของ AMH และร่วมค้นพบว่า การตรวจ AMH นั้น สำคัญอย่างไรต่อการทำ ICSI เริ่มต้นกันเลย Anti-Müllerian Hormone (AMH) คืออะไร? Anti-Müllerian Hormone (AMH) หรือฮอร์โมนแอนตี้มูลเลอเรียน เรียกสั้นๆว่า AMH คือฮอร์โมนที่ผลิต โดยเซลล์ granulosa ในถุงไข่ของผู้หญิง เป็นตัวบ่งบอกความสามารถในการทำงานของรังไข่หรือบอกจำนวนไข่ที่สามารถผลิตได้ ฮอร์โมน AMH จะมีค่าสูงขึ้น และลดลงเรื่อยๆ เมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัว และจะลดลงจนหมดไปเมื่อมีอายุมากขึ้นหรือเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน…
ข้อกฏหมายสำหรับการรักษาผู้มีบุตรยากในประเทศไทย ทำความรู้จักข้อกฎหมายการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ทำ ivf ทำ icsi ปัจจุบันมีคู่รักหลายคู่ที่เผชิญกับภาวะมีบุตรยาก การใช้เทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์จึงกลายมาเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่อยากมีลูก ดังนั้นกฎหมายที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ จึงเป็นเรื่องที่คู่รักต้องทำความรู้จัก และศึกษาให้ดี เพื่อกำหนดสถานะความพ่อ และแม่ ที่ชอบด้วยกฎหมายของเด็กที่เกิดโดยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ได้อย่างเหมาะสม ทำไมทำเด็กหลอดแก้วต้องรู้กฎหมาย และข้อบังคับ การมีกฎหมายสำหรับการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากในประเทศไทย เป็นการสร้างกรอบการดำเนินงานที่เป็นธรรม เพื่อความปลอดภัยของผู้ที่มีบุตรยาก ช่วยลดความเสี่ยง และเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา รวมถึงป้องกันการรักษาที่ไม่ได้มาตรฐานหรือผิดกฎหมาย ตลอดจนการแสวงหาผลประโยชน์ รวมถึงการเกิดปัญหาทางสังคม และที่สำคัญเพื่อเป็นป้องกันการละเมิดสิทธิ และรักษาจริยธรรมทางการแพทย์ในการดำเนินการด้านการรักษาภาวะมีบุตรยาก เช่น การทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi โดยกฎหมายการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 มีข้อบังคับ ดังนี้ 1.พระราชบัญญัติการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 กำหนดหลักเกณฑ์และข้อกำหนดในการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์และจริยธรรม ระบุว่าเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi สามารถใช้ได้กับคู่สมรสที่มีปัญหาการมีบุตรยากเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ใช้กับผู้ที่ยังไม่ได้สมรส กำหนดข้อห้ามในการให้บริการการรักษาผู้มีบุตรยากสำหรับผู้ที่มีอายุเกิน 55 ปี 2.ข้อกำหนดทางจริยธรรม การให้บริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ทำเด็กหลอดแก้ว…
เหตุผลที่ระยะเวลาในการเตรียมมดลูกแต่ละคนไม่เท่ากัน มดลูกบางหรือหนา มีผลต่อการเตรียมมดลูกทำเด็กหลอดแก้วแตกต่างกัน ระยะเวลาในการเตรียมมดลูกของผู้ที่เผชิญกับภาวะมีบุตรยาก ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงระดับฮอร์โมนพื้นฐาน สุขภาพทั่วไป และการตอบสนองต่อการรักษา โดยแพทย์จะทำการประเมินและปรับแผนการรักษาอย่างเหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการตั้งครรภ์ การเตรียมผนังมดลูก เป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญ และจำเป็นสำหรับผู้ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi ของผู้ที่มีบุตรยาก และอยากมีลูก เพราะเป็นกระบวนการที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ และสนับสนุนการเจริญเติบโตของตัวอ่อนในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ความหนาของผนังมดลูกมีผลต่อการตั้งครรภ์ เยื่อบุโพรงมดลูกของแต่ละคนหนาไม่เท่ากัน และในแต่ละรอบเดือนความหนาก็ไม่เท่ากัน ความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูกที่ดี โดยในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi ความหนาที่มีการฝังตัวของตัวอ่อนที่ดีคือ 8-14 มิลลิเมตร และโอกาสการฝังตัวจะลดลงอย่างชัดเจนเมื่อผนังมดลูกหนาน้อยกว่า 7 มิลลิเมตร ดังนั้นผนังมดลูกยิ่งหนาก็มีโอกาสท้องง่าย แต่หากหนามากกว่า 14 มิลมิเมตรจะทำให้ตั้งท้องยากขึ้น การฝังตัวอ่อน (Embryo Implantation) มีความสัมพันธ์กับผนังมดลูก เพราะตัวอ่อนที่ปฏิสนธิแล้วเคลื่อนตัวจากท่อนำไข่ เซลล์ที่รวมกันจะเริ่มเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว และเคลื่อนผ่านท่อนำไข่ท่อใดท่อหนึ่งไปยังมดลูก กลุ่มของเซลล์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วนี้เรียกว่า บลาสโตซิสต์ เมื่ออยู่ในมดลูก เซลล์กลุ่มเล็กๆ…
การแบ่งเกรดตัวอ่อนใช้เกณฑ์อะไรในการวัด สำหรับ คลินิกมีบุตรยาก ทำความรู้จักการแบ่งเกรดตัวอ่อน คลินิกมีบุตรยากใช้เกณฑ์อะไรวัด การแบ่งเกรดตัวอ่อนและอัตราความสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้ว ทํา icsi ivf เป็นหนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดเมื่อคู่รักที่มีบุตรยาก และยากมีลูก ตัดสินใจเข้ามาใช้บริการคลินิกมีบุตรยาก เพราะการแบ่งเกรดตัวอ่อน ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จการตั้งครรภ์ เนื่องจากการแท้งบุตร 60% เกิดจากความผิดปกติของตัวอ่อน การแบ่งเกรดตัวอ่อนเพื่อทำเด็กหลอดแก้วคืออะไร การแบ่งเกรดตัวอ่อน เป็นวิธีการช่วยคัดเลือก และประเมินคุณภาพตัวอ่อนสำหรับการทำเด็กหลอดแก้ว ทํา icsi ivf โดยการแบ่งเกรด หรือให้คะแนนตัวอ่อน จะทำในตัวอ่อน 2 ระยะ ได้แก่ การทำในวันที่ 3 (Day 3) เรียกว่าระยะคลีเวจ (Cleavage) นักเพาะเลี้ยงตัวอ่อนเรียกระยะนี้ว่า "ระยะแตกแยก" แต่เซลล์จะไม่มีขนาดเพิ่มขึ้น การทำในวันที่ 5 (Day 5) เรียกว่า ระยะบลาสโตซิสต์ (Blastocyst) หลังเก็บไข่ โดยแพทย์จะประเมินระดับความพร้อมของตัวอ่อนแต่ละตัว และเวลาที่เหมาะสมสำหรับการย้ายตัวอ่อนกลับเข้าไปในมดลูก การคัดเกรดตัวอ่อนมีประโยชน์หรือไม่? การศึกษาที่ตีพิมพ์ในหอสมุดแพทยศาสตร์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าเอ็มบริโอที่มีเกรดสูงกว่าจะมีอัตราการตั้งครรภ์และอัตราเกิดยังชีพที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับตัวอ่อนที่มีเกรดต่ำ ซึ่งประโยชน์ของการคัดเกรดตัวอ่อนมี…
วิธีนับอายุครรถ์เมื่อใส่ตัวอ่อนในการทำ icsi เมื่อทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi นับอายุครรภ์อย่างไรให้แม่นยำ เมื่อใส่ตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูก สำหรับคู่รักที่ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi หลายๆ คนมีคำถามว่าจะสามารถนับอายุครรภ์ได้อย่างไร เพื่อติดตามพัฒนาการของทารกในครรภ์ รวมถึงการเตรียมพร้อมการดูแล และการจัดการครรภ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้การนับอายุครรภ์ว่ามีความสำคัญมาก ก่อนที่จะเข้าสู่วิธีการนับอายุครรภ์เมื่อใส่ตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูกของฝ่ายหญิง มาทำความรู้จัก “อายุครรภ์” เป็นคำที่ใช้ในการตั้งครรภ์ ซึ่งหมายถึง “ระยะเวลาการตั้งครรภ์ของผู้หญิง” นั่นเอง สำหรับอายุครรภ์ หน่วยที่ใช้โดยทั่วไปในทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งครรภ์โดยธรรมชาติ หรือทำเด็กหลอดแก้ว คืออายุครรภ์จะนับเป็นสัปดาห์ โดยปกติแล้วผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ อายุครรภ์จะอยู่ที่ 40 สัปดาห์ หรือประมาณ 280 วัน ซึ่งการคำนวณของผู้หญิงที่ต้้งครรภ์โดยวิธีธรรมชาติ จะนับจากวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งสุดท้ายเป็นวันที่ 0 และนับต่อไปจนถึงวันที่ 6 สัปดาห์นี้จะถือเป็นสัปดาห์ที่ 0 และวันที่ 7-13 ก็จะถือว่าเป็นสัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ ส่วนหญิงที่ตั้งครรภ์โดยการทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf icsi จะมีวิธีการคำนวณที่ซับซ้อนเล็กน้อย ทำเด็กหลอดแก้วคำนวณอายุครรภ์ยังไง เมื่อคู่รักเข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว…