Skip to content Skip to footer

ทำไมต้องทานยาเตรียมผนังมดลูกก่อนใส่ตัวอ่อนในการทำ ICSI

ข้อดีการทานยาเตรียมผนังมดลูกก่อนย้ายตัวอ่อน ในการทำ ICSI

ผนังมดลูก (endometrium) ของผู้หญิงนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง โดยมีบทบาทที่สำคัญในหลายด้าน ทั้งในด้านของการฝังตัวของตัวอ่อน การสนับสนุนการเจริญเติบโตของตัวอ่อน การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการตั้งครรภ์ การป้องกันตัวอ่อนรติดเชื้อ และแรงกระแทกจากภายนอก

การทานยาเตรียมผนังมดลูกก่อนการใส่ตัวอ่อนในการทำเด็กหลอดแก้ว จึงเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการ เพื่อให้ได้สภาพที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการฝังตัว และพัฒนาของตัวอ่อน ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ที่ประสบความสำเร็จ รวมไปถึงสุขภาพของทารกในครรภ์

ทำความรู้จักฮอร์โมน 2 ประเภท

การเตรียมผนังมดลูกให้กับผู้ที่มีลูกยาก และอยากมีลูกผ่านการทำเด็กหลอดแก้ว มักใช้ฮอร์โมนที่สำคัญ 2 ประเภท ที่มีบทบาทที่สำคัญในการเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูก

  1. เอสโตรเจน (Estrogen) ทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้เยื่อบุหนา และพร้อมสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อน มีทั้งรูปแบบยาเม็ด ยาทาน ยาแปะผิวหนัง (transdermal patch)
  2. โปรเจสเตอโรน (Progesterone) ทำหน้าที่ช่วยปรับเยื่อบุโพรงมดลูกให้อยู่ในสภาพที่รับตัวอ่อนได้ และช่วยรักษาสภาพเยื่อบุให้เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของตัวอ่อนหลังจากการฝังตัว มีทั้งยาทาน ยาสอดช่องคลอด และยาเม็ด

ทำไมต้องเตรียมผนังมดลูกก่อนใส่ตัวอ่อน

การให้ยาฮอร์โมนสำหรับผู้ที่มีลูกยาก เป็นวิธีการเลียนแบบการพัฒนาของเยื่อบุโพรงมดลูกในรอบธรรมชาติ โดยในระยะประมาณ 2 สัปดาห์แรก ด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน จนกระทั่งเยื่อบุโพรงมดลูกมีความหนา และลักษณะเหมาะสมที่จะใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนร่วมกับโปรเจสเตอโรน ทำให้เซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกเปลี่ยนแปลง และเหมาะสมกับการฝังตัวของตัวอ่อน

โดยที่ความหนา และคุณภาพของเยื่อบุโพรงมดลูก มีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของการเจริญพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิสนธิตามธรรมชาติ หรือการทำเด็กหลอดแก้ว รวมไปถึงความสามารถในการอุ้มลูกน้อยของคุณให้ครบกำหนดคลอด เมื่อเยื่อบุมดลูกที่บางเกิน โอกาสการฝังตัวของตัวอ่อนก็จะลดลง โดยผนังมดลูกที่สมบูรณ์ตามเกณฑ์ควรเป็น ดังนี้

  • ความหนาของผนังมดลูกประมาณ 8-10 มิลลิเมตร (ไม่ควรหนาเกิน 14 มิลลิเมตร)
  • มีการเรียงตัว 3 ชั้นสวย (Triple lines) ผิวเรียบเห็นเส้นกลางชัดเจน
  • ผนังของมดลูกควรจะมีความใสเป็นวุ้น สะอาด ไม่หนาทึบทับถมด้วยประจำเดือนเก่าที่คั่งค้าง
  • มดลูกอุ่น หมายถึงการมีเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงเพียงพอ และไม่มีสารพิษตกค้าง

เตรียมผนังมดลูกก่อนใส่ตัวอ่อนช่วยอะไรบ้าง

  • สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับเยื่อบุโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกต้องมีความหนา และสภาพที่เหมาะสมเพื่อให้ตัวอ่อนสามารถฝังตัว และเติบโตได้ โดยเฉพาะฮอร์โมนอย่างเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมนี้ให้พร้อม
  • ปรับระดับฮอร์โมนในร่างกาย การทานยาเหล่านี้จะช่วยควบคุม และปรับระดับฮอร์โมนในร่างกายให้เหมาะสมสำหรับการตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมนที่เหมาะสมจะช่วยให้เยื่อบุโพรงมดลูกพัฒนาได้อย่างเหมาะสม และรักษาสภาพที่ดีสำหรับการฝังตัวอ่อน
  • การพัฒนาเยื่อบุโพรงมดลูก และตัวอ่อนเกิดขึ้นพร้อมกัน การทานยาช่วยให้การพัฒนาเยื่อบุโพรงมดลูกสอดคล้องกับช่วงเวลาที่ตัวอ่อนพร้อมฝังตัว การสอดคล้องกันนี้ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกอยู่ในสภาพที่รับได้ดีที่สุดเมื่อมีการใส่ตัวอ่อน
  • ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน การเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูกด้วยยาช่วยลดความเสี่ยงของการแท้งและภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ โดยสร้างสภาพแวดล้อมที่เสถียรและสนับสนุนการฝังตัวและการเจริญเติบโตของตัวอ่อน
  • ป้องกันภาวะความไม่ปกติของเยื่อบุโพรงมดลูก การให้ยาเตรียมผนังมดลูกอาจช่วยลดความไม่ปกติของเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ รวมถึงการรวมเนื้อเยื่อมดลูก (embryo) ฝังตัว และทำงานได้ดีขึ้น ทำให้เพิ่มโอกาสในการติดตั้งตัวอ่อนได้
  • เพิ่มอัตราความสำเร็จของการทำเด็กหลอดแก้ว การเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูกด้วยยาเพิ่มโอกาสที่ตัวอ่อนจะฝังตัว และพัฒนาเป็นการตั้งครรภ์ที่สำเร็จ การเตรียมตัวอย่างถูกต้องนี้ช่วยเพิ่มโอกาสที่การทำเด็กหลอดแก้วจะประสบความสำเร็จ

ขั้นตอนเตรียมผนังมดลดก่อนใส่ตัวอ่อน

  1. เมื่อเข้าสู่กระบวนการเตรียมผนังมดลูก สำหรับผู้ทำเด็กหลอดแก้ว ทำivf ทำ icsi แพทย์จะดำเนินการตรวจร่างกาย อัลตราซาวด์เพื่อตรวจสภาพผนังมดลูก มดลูก รังไข่
  2. ควรมาพบแพทย์ในวันที่ 2-3 ของการมีประจำเดือน เพื่อประเมินโพรงมดลูก และวางแผนการเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูก โดยการใช้ยาฮอร์โมนด้วยยา เอสโตรเจน (Estrogen) เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต และความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูก โปรเจสเตอโรน (Progesterone) จะทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกอยู่ในสภาพที่เหมาะสมสำหรับการฝังตัวอ่อน
  3. แพทย์จะนัดติดตามอาการประมาณ 10-14 วัน เพื่อการตรวจสอบ ติดตามผลผ่านอัลตราซาวด์ และตรวจวิเคราะห์ผลฮอร์โมนในร่างกาย เพื่อตรวจสอบความหนา และสภาพของเยื่อบุโพรงมดลูก และตรวจระดับฮอร์โมนในเลือด เช่น เอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน เพื่อให้แน่ใจว่ามีระดับที่เหมาะสม
  4. หลังจากนั้นจะตรวจด้วยการอัลตราซาวด์ และตรวจวิเคราะห์ผลฮอร์โมนในร่างกาย กรณีที่เยื่อบุโพรงมดลูกยังไม่เหมาะสมต่อการย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูก แพทย์จะให้ปรับขนาดยาฮอร์โมนแล้วนัดมาติดตามอาการอีกครั้ง กรณีที่เยื่อบุโพรงมดลูกเหมาะสมแก่การย้ายตัวอ่อนแล้ว แพทย์จะมีคำสั่งการรักษาโดยมีทั้งยารับประทานและยาที่สอดทางช่องคลอด เพื่อเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูกก่อนถึงวันที่ย้ายตัวอ่อน 5 วันหลังจากนั้นแพทย์จะนัดวันและเวลาในการย้ายตัวอ่อนอีกครั้ง
  5. ผู้ทำเด็กหลอดแก้วควรเสริมโภชนาการ และการดูแลสุขภาพ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ และกรดไขมันโอเมก้า-3 เพราะช่วยส่งเสริมสุขภาพของเยื่อบุโพรงมดลูก และการดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้เยื่อบุโพรงมดลูกมีความชุ่มชื้นและมีการไหลเวียนเลือดที่ดี
  6. การออกกำลังกายและการพักผ่อนอย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดไปยังมดลูก และอวัยวะสืบพันธุ์อื่นๆ การพักผ่อนเพียงพอ และการลดความเครียด ส่งผลดีต่อสุขภาพทั่วไป และฮอร์โมน
  7. การติดตาม และปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม การปรึกษาแพทย์เป็นระยะ เพื่อปรับแผนการรักษาตามผลการตรวจ และการตอบสนองของร่างกาย ช่วยให้กระบวนการเตรียมผนังมดลูกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม

สำหรับระยะเวลาในการเตรียมผนังมดลูกหรือเยี่อบุมดลูก จะอยู่ที่ประมาณ 2-3 สัปดาห์ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับพัฒนาการของเยื่อบุโพรงมดลูกตามที่แพทย์ติดตามผล รวมถึงเงื่อนไขด้านสุขภาพอื่นๆ ของผู้ทำเด็กหลอดแก้ว ซึ่งผลการใช้ยายาฮอร์โมนระหว่างเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูกจะทำให้เกิดผลข้างเคียง ได้แก่ คัดตึงเต้านม น้ำหนักตัวเพิ่ม รวมถึงมีอาการอ่อนเพลียง่ายขึ้น ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน และท้องเสีย
การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับผนังมดลูก รวมถึงการผสมผสานระหว่างการดูแลโภชนาการ, การออกกำลังกาย การจัดการความเครียด เป็นส่วนที่สำคัญเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จการตั้งครรภ์ให้กับคู่รักที่เผชิญกับภาวะมีบุตรยาก

หากคุณเป็นคู่รักที่กำลังตัดสินใจทำเด็กหลอดแก้ว ฝากไข่ เพื่อเตรียมตัวทํา icsi ivf thailand กับ Genesis Fertility Center หรือ GFC ศูนย์รวมบริการทางการแพทย์สำหรับมีบุตรยาก มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำหน้ามาช่วยการเจริญพันธ์ให้กับคู่รักที่มีบุตรยาก ด้วยความเชี่ยวชาญที่ผสานความใส่ใจของทีมแพทย์และบุคลากรในการทำกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ด้วยวิธี icsi ราคา 190,000บาท ราคาฝากไข่ หรือ egg freezing 150,000 บาท และมีบริการแบ่งเกรดตัวอ่อน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ :
Call Center 097-484-5335
เวลาทำการ : จันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 20.00 น. หรือ
เสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.00 – 20.00 น.