Skip to content Skip to footer

ภาวะท้องลมเกิดจากอะไร

ภาวะท้องลมเกิดจากอะไร

ทำเด็กหลอดแก้ว เกิดภาวะท้องลมได้หรือไม่

บ่อยครั้งที่คลินิกมีบุตรยาก มักจะมีคำถามว่า ผู้ที่มีภาวะมีบุตรยากและอยากมีลูก และทำเด็กหลอดแก้ว ทำivf icsi  มีโอกาสที่จะเผชิญกับภาวะ ‘ท้องลม’ หรือไม่ และท้องลมเกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง รวมถึงความอันตรายจากภาวะท้องลมเป็นอย่างไร จริงๆ แล้ว อาการท้องลม ถือเป็นความผิดปกติอย่างหนึ่งของการตั้งครรภ์ และใครบ้างที่เสี่ยงเป็นท้องลม ลองหาคำตอบกันเลย

 

ภาวะท้องลมเกิดจากอะไร?

 

ตามปกติเมื่อหญิงตั้งครรภ์ทั้งโดยธรรมชาติ หรือกระทั่งการทำเด็กหลอดแก้ว ทำivf ทำicsi คือ เทคโนโลยีการเจริญพันธ์ุที่นำสเปิร์มและไข่ออกมาทำการปฏิสนธิในห้องแล็ปและฉีดเข้าสู่โพรงมดลูก  เมื่อไข่ที่ปฏิสนธิจะเกาะติดกับผนังมดลูก เมื่อตั้งครรภ์ประมาณ 5-6 สัปดาห์ ควรมีตัวอ่อนในถุงตั้งครรภ์ซึ่งเป็นที่ที่ทารกในครรภ์พัฒนา จะมีความกว้างประมาณ 18 มิลลิเมตร ถุงน้ำจะก่อตัวและเติบโต และพัฒนาเป็นตัวอ่อน  

 

แต่การเกิดภาวะท้องลม (Blighted Ovum) จะเกิดจากการที่ไข่ที่ปฏิสนธิฝังตัวเข้าไปในมดลูก แต่ไม่พัฒนาต่อเป็นตัวทารก หรือทารกหยุดการเจริญเติบโต จึงไม่มีทารกในถุงการตั้งครรภ์ (gestational Sac)  จึงทำให้การตั้งครรภ์ของผู้มีบุตรยาก ไม่มีตัวอ่อนหรือตัวอ่อนสลาย ไปตั้งแต่ระยะเริ่มแรกของการตั้งครรภ์ แต่ถุงตั้งครรภ์ที่ซึ่งเอ็มบริโอจะพัฒนายังคงเติบโตต่อไป รกและถุงว่างขณะตั้งครรภ์จะปล่อยฮอร์โมนการตั้งครรภ์ แม้ว่าจะไม่มีตัวอ่อนก็ตาม 

 

ภาวะท้องลม นับว่าป็นสาเหตุสำคัญของความล้มเหลวในการตั้งครรภ์ระยะแรกหรือการแท้งบุตรสำหรับผู้ที่ทำเด็กหลอดแก้ว ทำivf หรือ ทำกิ๊ฟ และทำicsi  ซึ่งมักเกิดขึ้นเร็วมาก จนคุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ เพราะด้วยไข่ที่ไม่สมบูรณ์ทำให้เกิดการแท้งบุตร ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงตั้งแต่ 1-2สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ 

 

เมื่อแพทย์ทำการตรวจอัลตราซาวด์ผู้ที่มีบุตรยากที่ทำเด็กหลอดแก้ว  จะพบว่ามีเพียงถุงการตั้งครรภ์แต่ไม่พบตัวอ่อน ประมาณการว่า 50 % ของการแท้งบุตรในช่วงไตรมาสแรก มักมีสาเหตุมาจากตัวอ่อนที่ไม่สมบูรณ์ หรือความผิดปกติทางพันธุกรรม มักจะเกิดขึ้นจากโครโมโซมที่ผิดปกติของตัวอ่อน ในช่วงเวลาประมาณ 8-13 สัปดาห์ แต่อาการดังกล่าวจะไม่เป็นอันตราย หากได้รับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาอย่างถูกต้อง  

 

อาการภาวะท้องลมเป็นอย่างไร

 

สัญญาณของการตั้งครรภ์ที่ไม่พัฒนาในช่วงตั้งครรภ์ระยะแรก สามารถสังเกตอาการได้โดยจะเกิดอาการปวดเกร็งที่ผิดปกติในการตั้งครรภ์ระยะแรก ซึ่งการปวดเกร็งจะเล็กน้อยถึงปานกลางในบริเวณอุ้งเชิงกรานและช่องท้อง ท้องไม่โต ปวดท้องน้อย และมีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ ซึ่งเลือดออกทางช่องคลอด อาจมีเลือดออกเล็กน้อย มีเลือดออกหรือผ่านเยื่อบุออกมาเป็นสีเทาอ่อนหรือลิ่มเลือด แต่วิธีเดียวที่จะยืนยันได้ว่าเกิดภาวะท้องลมหรือไม่ คือ การอัลตราซาวนด์ เพื่อตรวจสอบดูถุงตั้งครรภ์ว่ามีตัวอ่อนอยู่ข้างในหรือไม่ 

 

สาเหตุของการเกิดภาวะท้องลม 

 

การวินิจฉัยจำเป็นต้องอัลตราซาวนด์ หรือทดสอบ hCG อีกครั้ง โดยปกติจะตรวจพบประมาณ 6 สัปดาห์ เพราะจะเห็นการเต้นของหัวใจของทารกในครรภ์และลักษณะอื่นๆ ของทารกในครรภ์ที่กำลังเติบโต หากไม่มีสิ่งเหล่านี้เป็นเวลา 6 สัปดาห์ขึ้นไป แพทย์จะวินิจฉัยว่าคุณแท้งบุตร โดยสาเหตุของภาวะท้องลม มีปัจจัยดังนี้ 

  • โครโมโซมซึ่งเป็นโครงสร้างที่นำพายีน อาจมาจากอสุจิหรือไข่ที่ไม่มีคุณภาพ หรืออาจเกิดจากการแบ่งเซลล์ผิดปกติ  ทำให้ร่างกายหยุดการตั้งครรภ์เพราะรับรู้ถึงความผิดปกติ
  • การติดเชื้อ
  • โรคแพ้ภูมิตนเองของผู้ตั้งครรภ์ 
  • โรคต่อมไร้ท่อของผู้ตั้งครรภ์ 
  • เนื้อเยื่อที่แบ่งด้านในของมดลูกออกเป็นส่วนๆ 
  • ปัจจัยสภาพแวดล้อม เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ หรือการใช้สารเคมีที่อาจมีผลทำให้เกิดการแท้งบุตร

 

คำถามที่แพทย์มักพบบ่อย คือ ป้องกันภาวะท้องลมได้หรือไม่ จริงๆ แล้วท้องลม เป็นภาวะที่ไม่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้  แต่คู่รักสามารถตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน เพื่อทำการทดสอบทางพันธุกรรมกับเช็คเยื่อบุโพรงมดลูก หรือผู้ที่ทำicsi ทำivf คือ การใช้เทคโนโลยีการเจริญพันธ์ุที่นำสเปิร์มและไข่ออกมาทำการปฏิสนธิในห้องแล็ปและฉีดเข้าสู่โพรงมดลูก ควรตรวจโครโมโซม  เพื่อตรวจหาภาวะมีบุตรยากรวมไปถึงสาเหตุที่แท้จริงของการแท้งบุตรของคุณ และอาจเป็นประโยชน์สำหรับคู่รักที่ต้องสูญเสียการตั้งครรภ์หลายครั้ง 

 

ท้องลมเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหนในการตั้งครรภ์ 

การสูญเสียการตั้งครรภ์ อาจทำให้ผู้มีบุตรยากและยากมีลูกท้อแท้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดหากมีการเตรียมสุขภาพที่ดีก็มีโอกาสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ เพราะโดยทั่วไปแล้วผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีการแท้งบุตรเพียงครั้งเดียวก่อนที่จะมีลูกที่มีสุขภาพดี มีเพียงประมาณ 1 % เท่านั้นที่มีการแท้งบุตรซ้ำ แต่หากประสบภาวะท้องลมหลายครั้ง แพทย์อาจแนะนำให้ทำการตรวจโครโมโซมภาวะทางพันธุกรรม

 

การรักษาภาวะท้องลมด้วยวิธีการอย่างไร  

เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่า เกิดภาวะท้องลม คลินิกมีบุตรยากจะแนะนำให้รอดูอาการ 2-3 วันหรืออาจจะถึง 1 สัปดาห์ เพื่อดูว่าร่างกายมีภาวะโลหิตจางหรือไม่ โดยวิธีการรักษาภาวะท้องลม มีดังนี้ 

  • รอให้แท้งออกมาเอง จะเกิดขึ้นเองภายใน 2 สัปดาห์หลังตัวอ่อนเสียชีวิตแล้ว 
  • แพทย์อาจสั่งจ่ายยาเหน็บในช่วงคลอด ได้แก่ ยาMisoprostal ที่กระตุ้นมดลูกเพื่อล้างสิ่งที่อยู่ภายใน ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาหลายวันในกรณีที่มีการแท้งไม่สมบูรณ์ มีเศษถุงการตั้งครรภ์ค้างอยู่
  • แพทย์จะดำเนินการขยายและการขูดมดลูก (D&C) หรือดูดส่วนของการตั้งครรภ์ (MVA) เพื่อล้างมดลูก โดยสามารถทำได้ทุกอายุครรภ์ของไตรมาสแรก ในกรณีที่ผู้ป่วยมีเลือดออกมาก ปวดท้องมาก หรือมีการแท้งไม่สมบูรณ์ เพื่อลดอาการแทรกซ้อน
  • หลังแท้งหรือระหว่างการรักษาคุณอาจต้องได้รับการตรวจอัลตราซาวนด์ เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อเยื่อทั้งหมดหลุดออกมาอย่างสมบูรณ์แล้ว 
  • หากมีเลือดออกมากจากช่องคลอด อาการวิงเวียนศีรษะหรือเป็นลมหรือมีไข้ 38°C หรือสูงกว่า อาการปวดท้องอย่างรุนแรงให้รีบพบแพทย์ทันที 

 

โอกาสตั้งครรภ์แล้วมีสุขภาพดีมีหรือไม่  

การศึกษาในสก็อตแลนด์กับผู้หญิงมากกว่า 30,000 คนสรุปว่าผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ภายใน 6 เดือนหลังจากแท้งบุตร จริงๆ แล้วมีโอกาสตั้งครรภ์ที่มีบุตรที่มีสุขภาพดีได้ ผู้หญิงเหล่านี้มีการแท้งบุตรหรือการตั้งครรภ์นอกมดลูกน้อยกว่าผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ 6 – 12 เดือนหลังจากการแท้งบุตร อย่างไรก็ตาม แม้ว่าร่างกายพร้อมที่จะตั้งครรภ์ครั้งใหม่ แต่สภาพจิตใจก็อาจไม่พร้อม บางคนเผชิญกับภาวะโศกเศร้าและเสียใจต่อการสูญเสียการตั้งครรภ์ และผู้หญิงบางคนพบว่าต้องใช้เวลาหลายเดือน กว่าจะพร้อมที่จะกลับมาพยายามตั้งครรภ์อีกครั้ง

สรุปการเกิดภาวะท้องลม ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะเจริญพันธุ์ไม่ได้ถือว่าการสูญเสียการตั้งครรภ์ แต่เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าคุณหรือคู่ของคุณมีอะไรผิดปกติ โดยแพทย์มักจะรอจนกว่าผู้หญิงจะแท้งบุตรติดต่อกัน 2-3 ครั้ง ถึงจะตรวจเลือดและตรวจโครโมโซมเพื่อดูว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น นอกจากนี้ คลินิกมีบุตยาก จะแนะนำให้รอการตั้งครรภ์หลังจากไข่ที่ไม่สมบูรณ์หรือจนกว่าจะมีประจำเดือน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้น 4-6 สัปดาห์หลังจากที่คุณแท้งหรือนำเนื้อเยื่อออก ซึ่งจะต้องใช้การคุมกำเนิดในขณะที่รอ เนื่องจากคุณอาจตกไข่ได้เร็วถึง 2 สัปดาห์หลังจากการแท้งบุตร

หากคุณเป็นคู่รักที่กำลังตัดสินใจทำเด็กหลอดแก้ว เพื่อเตรียมตัวทํา icsi ivf thailand กับ Genesis Fertility Center หรือ GFC ศูนย์รวมบริการทางการแพทย์สำหรับมีบุตรยาก มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำหน้ามาช่วยการเจริญพันธ์ให้กับคู่รักที่มีบุตรยาก ด้วยความเชี่ยวชาญที่ผสานความใส่ใจของทีมแพทย์และบุคลากรในการทำกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ด้วยวิธี icsi ราคา 190,000 บาท และราคาฝากไข่ หรือ egg freezing  150,000 บาท

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ :
Call Center 097-484-5335
เวลาทำการ : จันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 20.00 น. หรือ
เสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.00 – 20.00 น.