มดลูกบางหรือหนา มีผลต่อการเตรียมมดลูกทำเด็กหลอดแก้วแตกต่างกัน
ระยะเวลาในการเตรียมมดลูกของผู้ที่เผชิญกับภาวะมีบุตรยาก ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงระดับฮอร์โมนพื้นฐาน สุขภาพทั่วไป และการตอบสนองต่อการรักษา โดยแพทย์จะทำการประเมินและปรับแผนการรักษาอย่างเหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการตั้งครรภ์
การเตรียมผนังมดลูก เป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญ และจำเป็นสำหรับผู้ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi ของผู้ที่มีบุตรยาก และอยากมีลูก เพราะเป็นกระบวนการที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ และสนับสนุนการเจริญเติบโตของตัวอ่อนในช่วงแรกของการตั้งครรภ์
ความหนาของผนังมดลูกมีผลต่อการตั้งครรภ์
เยื่อบุโพรงมดลูกของแต่ละคนหนาไม่เท่ากัน และในแต่ละรอบเดือนความหนาก็ไม่เท่ากัน ความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูกที่ดี โดยในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi ความหนาที่มีการฝังตัวของตัวอ่อนที่ดีคือ 8-14 มิลลิเมตร และโอกาสการฝังตัวจะลดลงอย่างชัดเจนเมื่อผนังมดลูกหนาน้อยกว่า 7 มิลลิเมตร ดังนั้นผนังมดลูกยิ่งหนาก็มีโอกาสท้องง่าย แต่หากหนามากกว่า 14 มิลมิเมตรจะทำให้ตั้งท้องยากขึ้น
การฝังตัวอ่อน (Embryo Implantation) มีความสัมพันธ์กับผนังมดลูก เพราะตัวอ่อนที่ปฏิสนธิแล้วเคลื่อนตัวจากท่อนำไข่ เซลล์ที่รวมกันจะเริ่มเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว และเคลื่อนผ่านท่อนำไข่ท่อใดท่อหนึ่งไปยังมดลูก กลุ่มของเซลล์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วนี้เรียกว่า บลาสโตซิสต์ เมื่ออยู่ในมดลูก เซลล์กลุ่มเล็กๆ นี้จะต้องปลูกถ่ายเข้าไปในผนังมดลูก ขั้นตอนนี้เรียกว่าการฝังตัว ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการตั้งครรภ์
ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาในการเตรียมมดลูก
- ระดับฮอร์โมนพื้นฐาน : ระดับเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนที่มีอยู่เดิมในร่างกายของแต่ละคนของผู้ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi ไม่เท่ากัน ในระหว่างรอบเดือนปกติของผู้หญิง
• ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนมักมีการเปลี่ยนแปลงตามรอบของระบบการสืบพันธุ์ของร่างกาย โดยระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงกลางรอบของระยะกลางของรอบเดือน และมีค่าสูงสุดในช่วงกลางของรอบเดือน
• ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังการปลดปล่อยไข่ และมีค่าสูงสุดในช่วงกลางถึงสุดท้ายของรอบเดือน หากไม่มีการตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนจะลดลงก่อนเริ่มรอบเดือนใหม่เริ่มขึ้นอีกครั้ง - สภาพ และความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูกเริ่มต้น : ความหนา และสภาพของเยื่อบุโพรงมดลูกก่อนเริ่ม ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi การทานยาฮอร์โมน ระยะเวลาในรอบของระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงที่มีภาวะมีบุตรยาก ซึ่งรวมถึงระยะเวลาในรอบประจำเดือน มีผลต่อการพัฒนาของเยื่อบุโพรงมดลูก
- การตอบสนองต่อฮอร์โมน : ผู้มีบุตรยากแต่ละคนมีการตอบสนองต่อฮอร์โมนที่แตกต่างกัน บางคนอาจตอบสนองเร็วขึ้นหรือช้าลง เนื่องจากฮอร์โมนเพศหญิงที่มีผลต่อการตั้งครรภ์ อาจมีความแตกต่างกันไประหว่างผู้หญิง การปลดปล่อยฮอร์โมนที่ไม่เพียงพอหรือมากเกินไปอาจทำให้การตั้งครรภ์เร็วหรือช้าลง และหากมีปัญหาเช่น โรคประจำตัว ภาวะสุขภาพที่ไม่ดี หรือสภาวะอารมณ์ที่เครียด อาจส่งผลให้การตอบสนองต่อฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงไป
- อายุของผู้หญิงสามารถส่งผลต่อการเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูก : สภาวะการเตรียมมดลูกของผู้หญิงมีบุตรยาก มักมีการเปลี่ยนแปลงตามอายุ สำหรับผู้หญิงที่มีอายุมากขึ้น มักมีระยะเวลาที่เตรียมมดลูกที่ยาวขึ้น และมีโอกาสตั้งครรภ์ที่ลดลง เนื่องจากการทำงานของระบบสืบพันธุ์จะลดลงเมื่อมีอายุที่มากขึ้น
สุขภาพทั่วไป และโรคประจำตัว : ผู้ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi ป่วยเป็นโรคเบาหวาน หรือโรคไทรอย รวมไปถึงสุขภาพทางกาย และสุขภาพจิตมีผลต่อการเตรียมมดลูก ความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูกและระดับฮอร์โมนในร่างกายมักมีความสัมพันธ์กับสุขภาพทั่วไปของผู้หญิง - วิถีชีวิต และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม : พฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพทั่วไปของ ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi เช่น การออกกำลังกาย การบริโภคอาหารที่เหมาะสม การลดความเครียด และการดูแลสุขภาพทั่วไป สามารถมีผลต่อการเตรียมผนังมดลูก และโอกาสในการตั้งครรภ์ได้
ความเสี่ยงผนังมดลูกไม่เหมาะสมการตั้งครรภ์
1.ภาวะที่เยื่อบุโพรงมดลูกหนามากกว่า 14 มิลลิเมตร ผู้ที่มีภาวะมีบุตรยาก เผชิญกับการตั้งครรภ์นอกมดลูก อาจแสดงสัญญาณของเยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้น ภาวะที่เยื่อบุโพรงมดลูกหนาเกินไป ซึ่งมักมีการเชื่อมโยงกับฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือสารประกอบคล้ายเอสโตรเจนในระดับที่มากเกินไป และมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไม่เพียงพอ สาเหตุมดลูกหนา โครงสร้างและลักษณะของเยื่อบุโพรงมดลูกมี ดังนี้- ภาวะ Polycystic Ovary Syndrome (PCOS): ภาวะ PCOS เป็นภาวะที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศชายในปริมาณมากเกินไป ส่งผลให้รอบเดือนไม่ปกติ และเยื่อบุโพรงมดลูกมีการหนาขึ้น จึงทำให้มีลูกยาก
- การใช้ฮอร์โมนหรือยาบางชนิด การใช้ฮอร์โมนทดแทนหรือยาบางชนิดที่มีเอสโตรเจนสูงโดยไม่มีความสมดุลกับโปรเจสเตอโรน อาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนามากขึ้น
- เนื้องอกหรือซีสต์ในมดลูก : การมีเนื้องอกหรือซีสต์ในมดลูก สามารถกระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนามากเกินไป
- ภาวะ Hyperplasia : เป็นภาวะที่เยื่อบุโพรงมดลูกมีการเจริญเติบโตเกินปกติ อาจเกิดจากการที่มีเอสโตรเจนมากเกินไปโดยไม่มีโปรเจสเตอโรนมาควบคุม
- น้ำหนักตัวเกินหรือโรคอ้วน : เซลล์ไขมันในร่างกายสามารถผลิตเอสโตรเจนได้เพิ่มเติม ซึ่งอาจทำให้ระดับเอสโตรเจนในร่างกายสูงเกินไป ส่งผลให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนามากขึ้น
- การไม่ตกไข่เป็นเวลานาน : หากไม่มีการตกไข่เป็นเวลานาน ระดับโปรเจสเตอโรนในร่างกายจะไม่สูงพอที่จะสมดุลกับเอสโตรเจน ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้นจึงมีลูกยาก
- การรักษาด้วยฮอร์โมนในผู้หญิงวัยทอง : การรักษาด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนโดยไม่สมดุลกับโปรเจสเตอโรนในผู้หญิงวัยทอง อาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้น
- ระดับฮอร์โมนที่ไม่สมดุล : ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีบทบาทสำคัญในการทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนา หากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำเกินไป หรือระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูงเกินไป อาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง
- การใช้ยาฮอร์โมน : การใช้ยาคุมกำเนิดหรือยาฮอร์โมนที่มีผลต่อระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในร่างกายอาจมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง
- ปัญหาการไหลเวียนโลหิต : การไหลเวียนโลหิตที่ไม่ดีในมดลูก ของผู้ที่มีบุตรยาก ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่สามารถพัฒนา และหนาได้ตามปกติ
- การทำแท้งหรือการผ่าตัดมดลูก : ผู้มีบุตรยากผ่านการแท้งบุตรหรือการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับมดลูกสามารถทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกเกิดแผลหรือมีการบาดเจ็บ ซึ่งอาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลงได้
- ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกบางแต่กำเนิด : ผู้ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsiบางคนอาจมีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกบางมาตั้งแต่กำเนิด ซึ่งอาจเกิดจากพันธุกรรมหรือความผิดปกติในระบบสืบพันธุ์
- ปัญหาทางสุขภาพอื่นๆ : โรคบางอย่าง เช่น โรคต่อมไทรอยด์ โรคเบาหวาน หรือโรคทางสุขภาพอื่น ๆ อาจมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง
- ภาวะขาดสารอาหาร : การขาดสารอาหารหรือการรับประทานอาหารที่ไม่สมดุลสามารถมีผลทำให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานไม่เต็มที่ และทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลงได้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ :
Call Center 097-484-5335
เวลาทำการ : จันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 20.00 น. หรือ
เสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.00 – 20.00 น.