รับมือยังไงเมื่อทำเด็กหลอดแก้ว IVF และ ICSI มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
‘การทำเด็กหลอดแก้ว’ เป็นคำที่มีความหมายสำหรับคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยาก ที่ปรารถนาจะมีลูกน้อย เพราะการทำเด็กหลอดแก้วเป็นเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ที่ทำให้คู่รักบรรลุความฝันในการเป็นพ่อแม่ได้ แต่ด้วยขั้นตอนการปฏิสนธิไข่ทั้งในห้องปฏิบัติการ รวมถึงการก่อนย้ายเอ็มบริโอเข้าสู่มดลูกของฝ่ายหญิง นับว่าเป็น กระบวนการที่มีความซับซ้อนมากมาย
ทุกๆ ขั้นตอนของการทำเด็กหลอดแก้ว IVF และ ICSI จึงมีภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นบางประการในระหว่างการทำเด็กหลอดแก้ว ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นข้อเสียก็ว่าได้ ดังนั้นเพื่อไขความกระจ่างให้กับคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยากและอยากมีลูก มาศึกษาเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียเพื่อพิจารณาประกอบการตัดสินใจรวมทั้งเตรียมพร้อมรับมือก่อนเข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้วจากคลินิกผู้มีบุตรยาก
ทำเด็กหลอดแก้วมีข้อดีอย่างไรบ้าง
- เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ผู้มีภาวะมีบุตรยาก
การทำเด็กหลอดแก้ว IVF และ ICSI เป็นกระบวนการที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีภาวะมีบุตรยาก ที่ไม่สามารถตั้งครรภ์ตามธรรมชาติได้ และรับการวินิจฉัยว่ามีปัญหาภาวะมีบุตรยาก อันเนื่องจากมีท่อนำไข่อุดตัน ความผิดปกติของการตกไข่ คุณภาพของไข่ลดลงเนื่องจากอายุ ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ในผู้หญิง และจำนวนสเปิร์มต่ำอันเนื่องมาจากสมรรถภาพทางเพศของฝ่ายชาย ดังนั้นข้อดีของการทำเด็กแก้วแบบ IVF และ ICSI เป็นเทคโนโลยีเจริญพันธ์ที่ดีที่สุด ช่วยเพิ่มโอกาสให้คู่รักประสบความสำเร็จกับการตั้งครรภ์ - สามารถตรวจโครโมโซมตัวอ่อนได้
การตรวจโครโมโซมตัวอ่อน NGS หรือ Next Generation Sequencing เป็นเทคโนโลยีที่สามารถตรวจความผิดปกติของโครโมโซมได้ลึกถึงระดับเบส และเป็นการตรวจคัดกรองโครโมโซมตัวอ่อนก่อนการฝังตัวเพื่อตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซมตัวอ่อนที่กำลังพัฒนาทั้ง 23 คู่ และผลการตรวจแม่นยำมากถึง 98% ช่วยลดปัญหากรณีตัวอ่อนไม่ฝังตัว การตั้งครรภ์ที่โครโมโซมมีความผิดปกติ เช่น โรคซิสติกไฟโบรซิส ดาวน์ซินโดรม หรือกระทั่งโรคกล้ามเนื้อเสื่อมดูเชนน์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังลดการแท้งในช่วงระยะเวลา 3 เดือนแรก - ทำหมันแล้วก็การทำเด็กหลอดแก้วได้
การทำเด็กหลอดแก้วเป็นเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ขั้นสูง แม้ว่าฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชายจะทำหมันแล้ว ก็สามารถทำได้ เพราะการทำเด็กหลอดแก้วซึ่งเป็นการผสมเทียม เป็นการนำไข่และอสุจิออกมาปฏิสนธิภายนอกในห้องปฏิบัติการ ซึ่งโดยปกติการทำหมันชายถือว่าเป็นภาวะมีบุตรยากในชาย เพราะเป็นป้องกันไม่ให้สเปิร์มเข้าไปในท่อน้ำเชื่ออสุจิในขณะที่มีการหลั่ง ดังนั้นการปฏิสนธิจะไม่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เพราะสเปิร์มไม่ออกไปปฎิสนธิกับไข่ของฝ่ายหญิงโดยตรง ดังนั้นการทำเด็กหลอดแก้ว จึงเป็นเทคโนโลยีเจริญพันธ์ุที่ลดความเสี่ยงจากการผ่าตัดแก้หมันของฝ่ายชายด้วย
วางแผนมีลูกเมื่อพร้อมได้อย่างเหมาะสม
คู่รักที่ยังไม่พร้อมมีลูกหรือมีอายุต่ำกว่า 35 ปี และวางแผนจะมีลูกในอนาคต สามารถเข้าสู่กระบวนการแช่แข็งตัวอ่อน (Embryo Freezing) ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะสามารถแช่แข็งตัวอ่อนได้นานกว่า 10 ปี และเมื่อถึงวันที่พร้อมจะมีลูก ก็สามารถนำตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูกเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ ดังนั้นการทำเด็กหลอดแก้ว IVF และ ICSI ข้อดีช่วยให้คู่รักสามารถวางแผนมีลูกในช่วงเวลาที่ต้องการ
- เทคโนโลยีที่ไม่ต้องผ่าตัด
การทำเด็กแก้ว IVF และ ICSI เป็นขั้นตอนการทำของคลินิกผู้มีบุตรยาก โดยฝ่ายหญิงนั้นจะไม่ได้รับการผ่าตัด จึงไม่ได้สร้างความกังวลใจให้กับคู่รัก โดยขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้วเริ่มจากการกระตุ้นไข่ ตรวจเลือดดูระดับฮอร์โมน ทำอัลตร้าซาวด์ จนถึงขั้นตอนการฉีดฮอร์โมนกระตุ้นรังไข่ หลังจากนั้นจะมีการเก็บไข่โดยใช้เข็มดูดผ่านทางช่องคลอด แพทย์จะใช้ยาระงับความรู้สึก เพื่อป้องกันความเจ็บปวดระหว่างเวลาการเก็บไข่ ส่วนฝ่ายชายมีการเก็บสเปิร์ม เพื่อคัดเลือกตัวที่แข็งแรงและมีความสมบูรณ์ที่สุด และนำมาผสมกับไข่ในห้องปฏิบัติการ เมื่อเกิดการปฎิสนธิไข่กับอสุจิจนเป็นตัวอ่อนแล้ว จะย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูก
ทำเด็กหลอดแก้วมีข้อเสียอย่างไรบ้าง
- วงจรทำเด็กหลอดแก้ว IVF และ ICSI
บ่อยครั้งที่การรักษาภาวะมีบุตรยากอาจไม่ประสบผลสำเร็จ ทำให้ผู้มีภาวะมีบุตรยากที่พยายามมาระยะหนึ่งแล้ว จะรู้สึกหมดความหวัง แต่จริงๆ แล้วความสำเร็จของการทำเด็กหลอดแก้วแต่ละรอบจะแตกต่างกันไปในแต่ละคู่รักที่เข้ามารักษา ดังนั้นการรักษาภาวะมีบุตรยากควรเลือกคลินิกผู้มีบุตรยากที่มีความผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะเจริญพันธุ์ เพราะจะสามารถทำให้โอกาสในการประสบความสำเร็จมีสูงขึ้น - ความเสี่ยงของการตั้งครรภ์แฝด
การทำเด็กหลอดแก้ว IVF และ ICSI เป็นการรักษาคู่รักมีภาวะมีบุตรยากและอยากมีลูก แพทย์จะรักษาโดยการนำตัวอ่อนมากกว่าหนึ่งตัวฝังไปที่โพรงมดลูกเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้มีความเสี่ยงหลายประการในการตั้งครรภ์ เช่น การตั้งครรภ์แฝด การแท้งบุตร การผ่าตัดคลอด และปัญหาสุขภาพของทารก เพื่อลดความเสี่ยงและโอกาสของการตั้งครรภ์แฝด ควรทำการตรวจคัดกรองโครโมโซมตัวอ่อนก่อนที่จะย้ายเข้าสู่โพรงมดลูก - ความเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด
การทำเด็กหลอดแก้ว IVF และ ICSI ทุกขั้นตอนมีกระบวนการกระตุ้นสูงเพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้กับคู่รักอยากมีลูก ดังนั้นการตั้งครรภ์จึงมีโอกาสการคลอดก่อนกำหนด และอาจเพิ่มความเสี่ยงของเด็กต่อปัญหาสุขภาพในระยะยาว - โอกาสในการตั้งครรภ์นอกมดลูก
การตั้งครรภ์นอกมดลูก มีโอกาสเกิดอยู่ที่ประมาณ 2-5% เท่านั้น หลังจากการย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูก มักเกิดจากภาวะที่ตัวอ่อนฝังตัวอยู่บริเวณอื่นที่ไม่ใช่โพรงมดลูก ซึ่งจะเกิดขึ้นบริเวณท่อนำไข่หรือปีกมดลูก ทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปเป็นทารกได้ อีกทั้งยังทำให้ท่อนำไข่แตก เมื่อคู่รักประสบความสำเร็จกับการตั้งครรภ์ จึงควรฝากครรภ์และรับการตรวจตามนัดหมาย - ผลกระทบทางอารมณ์และจิตใจ
การทำเด็กหลอดแก้ว IVF และ ICSI อาจเป็นเรื่องท้าทายทั้งทางอารมณ์และจิตใจสำหรับคู่รัก เพราะกระบวนการเหล่านี้ อาจต้องใช้ความพยายามในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ทางกายภาพ ทั้งการฉีดยา การเฝ้าสังเกต อาจทำให้ฝ่ายหญิงเกิดความเครียด วิตกกังวล ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ ดังนั้นคู่รักที่เข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้วไม่ควรเครียดและควรพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่ประโยชน์ เพื่อเตรียมพร้อมทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์
การทำเด็กหลอดแก้วIVF และ ICSI เป็นขั้นตอนที่มีความซับซ้อน และแต่ละขั้นตอนจะดำเนินการอย่างแม่นยำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นผลลัพธ์เชิงบวกของแต่ละขั้นตอนมีความสำคัญต่อวงจรที่สมบูรณ์ ร่างกายของผู้มีภาวะมีบุตรยากแต่ละรายมีความแตกต่างกัน ดังนั้นผลของการทำเด็กหลอดแก้วอาจแตกต่างกันเช่นกัน และในทุกขั้นตอนก็อาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
หากคุณเป็นคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยากและอยากมีลูก และกำลังมองหาการรักษาด้วยการทำเด็กหลอดแก้วที่มีประสิทธิภาพ หรือต้องการปรึกษาเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสีย การวางแผนครอบครัวโดยใช้เทคโนโลยีเจริญพันธุ์ ทำเด็กหลอดแก้ว IVF และ ICSI กับ Genesis Fertility Center หรือ GFC ศูนย์รวมบริการทางการแพทย์สำหรับมีบุตรยาก โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำหน้ามาช่วยการเจริญพันธ์ให้กับคู่รักที่มีบุตรยาก ด้วยความเชี่ยวชาญที่ผสานความใส่ใจของทีมแพทย์และบุคลากร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ :
Call Center 097-484-5335
เวลาทำการ : จันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 20.00 น. หรือ
เสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.00 – 20.00 น.