Skip to content Skip to footer

ต้องเตรียมผนังมดลูกก่อนการทำเด็กหลอดแก้ว

ทำไมต้องเตรียมผนังมดลูกก่อนการทำเด็กหลอดแก้ว

เด็กหลอดแก้ว IVF ICSI เตรียมผนังมดลูกให้พร้อมช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์

ทุกกระบวนของการทำเด็กหลอดแก้ว ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จการตั้งครรภ์สำหรับคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยากและอยากมีลูกทั้งสิ้น แม้กระทั่งการเตรียมความของผนังมดลูกของฝ่ายหญิง ก่อนที่จะเข้าสู่การทำเด็กหลอดแก้ว IVF ICSI ผนังมดลูกหรือเยื่อบุโพรงลูกของผู้หญิง มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเปรียบเสมือนเป็นบ้านของตัวอ่อน ดังนั้นหากบ้านมีความอบอุ่นและแข็งแรงทำให้ลูกน้อยสามารถเจริญเติบโตได้ดีนั่นเอง ถ้ามีปัจจัยที่ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูก หรือโพรงมดลูกมีปัญหา อาจทำให้ตัวอ่อนไม่ฝังตัวหรือฝังตัวแล้วไม่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่

ผนังมดลูก มีความสำคัญอย่างไร

ผนังมดลูก เป็นเยื่อบุโพรงมดลูกหรือเยื่อบุผิวของผนังด้านในของมดลูกของฝ่ายหญิง ในแต่ละเดือนเมื่อรังไข่ปล่อยไข่ออกมา เยื่อบุโพรงมดลูกจะหนาตัวขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นตัวอ่อน หากไข่ไม่ได้รับการปฏิสนธิ เยื่อบุจะหลุดออกจากช่องคลอด ซึ่งหน้าที่ของเยื่อบุมดลูก คือ ทำการหล่อเลี้ยงตัวอ่อนซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของการตั้งครรภ์ หากผู้ที่ทำเด็กหลอดแก้ว ทำเด็กหลอดแก้ว IVF ICSI มีเยื่อบุผิวที่มีความบางหรือน้อยกว่า 7 มิลลิเมตร ร่างกายจะไม่สามารถหล่อเลี้ยงตัวอ่อนและทารกในครรภ์ที่กำลังเติบโตได้ ความหนาของเยื่อบุจึงมีความสำคัญมาก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ จะทำการวัดความหนาของเยื่อบุก่อนการย้ายตัวอ่อน เพื่อให้แน่ใจว่ามีความหนาเพียงพอที่จะฝังตัวได้ โดยผนังมดลูกที่สมบูรณ์พร้อมตามเกณฑ์ที่เหมาะสมในการฝังตัวของตัวอ่อน ควรมีลักษณะดังนี้ · ผนังมดลูกที่มีความหนา เปิดกว้าง และหล่อเลี้ยงเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดสำหรับตัวอ่อน · ผนังมดลูกควรหนาอย่างน้อย 7 – 8 มิลลิเมตร (ไม่ควรหนาเกิน 14 มิลลิเมตร) · ผนังมดลูกแสดงลักษณะ “ไตรลามินาร์” หรือสามชั้น บนอัลตราซาวนด์ และมีผิวเรียบเห็นเส้นกลางชัดเจน · ใสเป็นวุ้นและสะอาด ไม่หนาทึบทับถมด้วยประจำเดือนเก่าที่คั่งค้าง · มดลูกอุ่น คือ มีเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงอย่างเพียงพอ ไม่มีสารพิษตกค้าง

สาเหตุที่ผนังมดลูกบางเกินหรือหนาเกินไป

ปัญหาสำหรับผู้ที่มีลูกยากและอยากมีลูก ที่มีมดลูกบาง ส่วนใหญ่จะมาจากการขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนของฝ่ายหญิง รวมทั้งยังมจากต่างปัจจัยต่างๆ อาทิ การที่เลือดไปเลี้ยงมดลูกไม่ดี เนื้องอกในมดลูก ตลอดจนการยึดเกาะหรือเนื้อเยื่อแผลเป็นในมดลูกที่เกิดจากการบาดเจ็บหรือการติดเชื้อ รวมทั้งเยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบเรื้อรัง (การติดเชื้อของเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูก) หรือมีภาวะรังไข่เสื่อมหรือหยุดทำงาน ทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว สำหรับผู้ที่ทำเด็กหลอดแก้ว ทำเด็กหลอดแก้ว IVF ICSI แล้วมีผนังมดลูกหนามากกว่า 14 มิลลิเมตร จะทำให้โอกาสการตั้งครรภ์ยากด้วยเช่นเดียวกัน เพราะเยื่อบุโพรงมดลูกหนามากเกินไป จะมีอาการประจำเดือนมาช้ากว่าปกติมาก หรือ 2-3 เดือนมาครั้ง อาจจะพบว่ามีติ่งเนื้อเป็นต้น และอาจมีเลือดออกกระปริดกระปรอยทางช่องคลอดได้ด้วย

ขั้นตอนเตรียมผนังมดลูกก่อนทำเด็กหลอดแก้ว มี 2 แบบ ดังนี้

· แบบรอบธรรมชาติ (Natural Frozen-thawed Embryo Transfer) ในผู้หญิงที่มีการตกไข่เป็นปกติจะสามารถเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูกรอบธรรมชาติได้โดยการใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) จากไข่ในรังไข่กระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว ไม่มีการใช้ยาฮอร์โมนจากภายนอกในการเตรียม จึงต้องมีการตรวจเลือดวัดระดับฮอร์โมน และอัลตราซาวด์ทางช่องคลอดเพื่อคาดการวันไข่ตก เพื่อทำการย้ายตัวอ่อนตามระยะตัวอ่อนที่เลี้ยง · แบบการใช้ยาฮอร์โมน เป็นการใช้ยาฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) จากภายนอก เช่น ชนิดรับประทาน ทา แปะ กระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว เมื่อความหนาเหมาะสมจะเริ่มใช้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ชนิดยาสอดหรือเจลทาช่องคลอด เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างของเยื่อบุโพรงมดลูกให้พร้อมรับตัวอ่อน

สำหรับขั้นตอนเตรียมความพร้อมผนังมดลูก แพทย์จะนัดติดตามอาการประมาณ 10-14 วัน หลังจากนั้นจะตรวจด้วยการอัลตราซาวด์และตรวจวิเคราะห์ผลฮอร์โมนในร่างกายของผู้ที่ทำเด็กหลอดแก้วด้วย ทำเด็กหลอดแก้ว IVF ICSI อีกครั้ง · กรณีที่ผนังมดลูกยังไม่เหมาะสม ต่อการย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูก แพทย์จะให้ปรับขนาดยาฮอร์โมนแล้วนัดมาติดตามอาการอีกครั้ง · กรณีที่ผนังมดลูกเหมาะสม สำหรับการย้ายตัวอ่อนแล้ว แพทย์จะมีคำสั่งการรักษาโดยมีทั้งยารับประทานและยาที่สอดทางช่องคลอด เพื่อเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูกก่อนถึงวันที่ย้ายตัวอ่อน 5 วัน

เช็คลิสต์เตรียมตัวผนังมดลูกให้พร้อม

1. การออกกำลังกาย 15-20 นาที สาเหตุที่ผนังมดลูกบางอาจเกิดจากการไหลเวียนโลหิตไม่ดี ในความเป็นจริงการขาดการออกกำลังกายมีส่วนทำให้เยื่อบุมดลูกบางได้ ซึ่งการออกกำลังกายช่วยร่างกายทำให้ผนังมดลูกหนาขึ้นได้ 2. เลือกอาหารให้ครบ 5 หมู่ และมีความเลือกให้หลากหลาย · โฟลิค (Folic Acid) เป็นวิตามินบีชนิดหนึ่งที่ร่างกายต้องการ จะช่วยเสริมสร้างกระบวนการผลิตเซลล์ใหม่ให้มีสุขภาพดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ตั้งครรภ์ Folic Acid อาจช่วยป้องกันการแท้งบุตร ความพิการแต่กำเนิดเกี่ยวกับสมองและกระดูกสันหลังของทารก และอาจช่วยป้องกันการกลายพันธุ์ของ DNA ซึ่งจะนำไปสู่การเป็นมะเร็งได้ และในบางครั้ง Folic Acid ก็ถูกใช้รักษาโรคโลหิตจางชนิดที่เกิดจากการขาดกรดโฟลิค ร่วมกับยารักษาตัวอื่น ๆ ด้วย · แมกนีเซียม ช่วยในการดูดซึมของแคลเซียม วิตามินดี และบำรุงระบบเจริญพันธุ์ ได้แก่ ดาร์กช็อคโกเเลต อัลมอลด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ · สังกะสี (Zinc) ช่วยบำรุงการทำงานของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรลให้ทำงานปกติ อาทิ ขนมปังโฮลเกรน ไก่ ไข่แดง งา เห็ด ตับ · วิตามินซี (Vitamin C) ช่วยบำรุงเลือดและนำไปเลี้ยงบริเวณมดลูกมากขึ้น เพิ่มโอกาสให้การฝังตัวของตัวอ่อนสำเร็จมากขึ้น อาทิ ผักกาดขาว ผักกาดเขียวปลี ผักโขม · วิตามินอี (Vitamin E) เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ ช่วยป้องกันการแตกตัวของเม็ดเลือด ป้องกันเม็ดเลือดอุดตัน และต่อต้านอนุมูลอิสระ อาทิ น้ำมันจมูกข้าวสาลี น้ำมันข้าวโพด 3. ลดความเครียด ความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้การตั้งครรภ์มีความสำเร็จที่น้อยลง เพราะเมื่อร่างกายเกิดภาวะเครียด การทำงานของฮอร์โมนในร่างกายโดยเฉพาะฮอร์โมนระบบเจริญพันธุ์ทำงานผิดปกติ 4. รักษาน้ำหนักให้เหมาะสม การที่ฝ่ายหญิงมีน้ำหนักตัวที่มาก หรือน้อยเกินไปจะส่งผลโดยตรงต่อระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนทำงานผิดปกติ 5. ทานวิตามินบำรุง จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนได้ แต่การทานวิตามินบำรุงควรปรึกษาแพทย์ก่อนทาน หรือเลือกวิตามินและอาหารเสริมที่ได้รับการรับรองของแพทย์ 6. หลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจทำให้ฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ ได้แก่ การทานอาหารดิบ หรือไม่สุก อาหารไม่สะอาดที่ทำให้เสี่ยงต่อการท้องเสีย หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า กาแฟ หรือการสูบบุหรี่ รวมถึงสารเคมี Xenoestrogen ซึ่งหากเข้าไปในร่างกายปริมาณที่มาก ส่งผลให้การทำงานของฮอร์โมนในร่างกายทำงานผิดปกติ สารเคมีชนิดนี้มักพบมากในอาหารแช่แข็งหรือแปรรูป ผัก ผลไม้และสัตว์ที่เลี้ยงโดยการใช้สารเคมีฉีดสารเร่ง หรือ ฮอร์โมนสังเคราะห์เพื่อเร่งการเจริญเติบโต เครื่องดื่มจากขวดพลาสติก ภาวะมีบุตรยากสำหรับผู้ที่ ทำเด็กหลอดแก้ว ด้วย IVF ICSI ของคู่รักแต่ละคู่นั้น มีพื้นฐานของร่างกายที่แตกต่างกัน “ผนังมดลูก” เป็นอีกปัจจัยหนึ่งของการตั้งครรภ์ ดังนั้นการเตรียมความผนังมดลูกให้เหมาะสมและสวยจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จการตั้งครรภ์ เมื่อรู้แล้วว่า ผนังมดลูกมีความสำคัญอย่างไร สำหรับผู้ที่ทำเด็กหลอดแก้วสามารถเริ่มเตรียมกันได้เลย

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ :
Call Center 097-484-5335
เวลาทำการ : จันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 20.00 น. หรือ
เสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.00 – 20.00 น.