โพรงมดลูกแบบไหนถึงตั้งครรภ์ง่ายและพร้อมมีลูก หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมคู่รักบางคู่ พยายามมีลูกมานานแต่ก็ยังไม่สำเร็จ ปัญหาหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นคือสภาพของโพรงมดลูกที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการฝังตัวของตัวอ่อน ซึ่งโพรงมดลูกที่ดี มีความสำคัญอย่างมากต่อการตั้งครรภ์ เพราะเป็นที่ที่ตัวอ่อนจะฝังตัว และเจริญเติบโต หากโพรงมดลูกมีสภาพที่เหมาะสม โอกาสในการตั้งครรภ์ก็จะสูงขึ้น ลักษณะของโพรงมดลูกที่ดีควรเป็นอย่างไร ในช่วงครึ่งแรกของรอบประจำเดือน เยื่อบุโพรงมดลูกของมดลูก จะสร้างชั้นของเนื้อเยื่อ และน้ำมูกที่เติบโต เพื่อเป็นที่ที่เหมาะสำหรับตัวอ่อนในการฝังตัว เยื่อบุโพรงมดลูกที่แข็งแรง จะมีเลือดไปเลี้ยงที่ดียังช่วยให้รกเติบโต และทำให้ทารกได้รับสารอาหาร และออกซิเจนในระหว่างตั้งครรภ์ ลักษณะของโพรงมดลูกที่ดีควรมีดังนี้ ความหนาที่เหมาะสม โพรงมดลูกของผู้หญิงทั่วไปแล้ว ควรมีความหนาที่เหมาะสมสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อนอยู่ที่ประมาณ 8-14 มิลลิเมตร และมีลวดลายไตรลามินาร์ เส้นสามเส้นหากบางเกินไป ตัวอ่อนอาจจะไม่มีที่ยึดเกาะที่แข็งแรงพอ หากหนาเกินไป อาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของตัวอ่อนได้ โดยความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูกจะเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลาของรอบเดือน โดยจะหนาขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงที่รังไข่สร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน และจะหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือนเมื่อไม่มีการตั้งครรภ์ โครงสร้างเยื่อบุโพรงมดลูก ของผู้หญิงมีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะโครงสร้างที่สมบูรณ์จะช่วยให้ตัวอ่อนฝังตัวได้อย่างมั่นคงและเจริญเติบโตได้ดี ซึ่งโครงสร้างของเยื่อบุโพรงมดลูกที่สมบูรณ์คือ เยื่อบุโพรงมดลูกประกอบด้วยหลายชั้น โดยแต่ละชั้นมีหน้าที่เฉพาะตัว เมื่อโครงสร้างของชั้นเหล่านี้สมบูรณ์และเรียงตัวเป็นระเบียบ ก็จะช่วยให้เยื่อบุโพรงมดลูกมีความแข็งแรง และพร้อมรับการฝังตัวของตัวอ่อนได้เป็นอย่างดี โดยชั้นต่างๆ ของเยื่อบุโพรงมดลูกมีดังนี้ชั้นฟังก์ชันนัล (Functional layer) เป็นชั้นนอกสุดของเยื่อบุโพรงมดลูก มีหน้าที่ในการสร้างเลือดและสารอาหารเพื่อหล่อเลี้ยงตัวอ่อน หากชั้นนี้มีความผิดปกติ เช่น มีแผลเป็น หรือมีการอักเสบ…
มีพังผืดในมดลูก อยากมีลูก ทำเด็กหลอดแก้ว เป็นไปได้ไหม ปัญหาสุขภาพของผู้หญิงเป็นเรื่องใกล้ตัวที่หลายคนให้ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคู่รักที่กำลังวางแผนจะมีบุตร ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi แต่กลับพบว่ามีพังผืดในมดลูก ซึ่งเป็นหนึ่งในภาวะสุขภาพที่พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ และเป็นสาเหตุหนึ่งที่อาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์ได้ ทำให้คู่รักเกิดคำถามว่า "มีลูกได้ไหม หากมีพังผืดในมดลูก ทำเด็กหลอดแก้วแต่มีพังผืดในมดลูก เมื่อคู่รักที่กำลังอยู่ระหว่างตัดสินใจหรืออยู่ในขั้นตอนเตรียมตัวทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi และกำลังประสบกับปัญหาพังผืดในมดลูก ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการรักษา มาทำความรู้จัก “พังผืดในมดลูก” คืออะไรกันก่อน ในทางการแพทย์ คือภาวะที่ผู้หญิงเกิดเนื้อเยื่อแผล ที่เกิดจากการอักเสบ หรือบาดเจ็บบริเวณอุ้งเชิงกราน จึงเกิดเส้นใยเหนียวขึ้นมาหุ้มอวัยวะในอุ้งเชิงกราน ทำให้อวัยวะเหล่านี้เกาะติดกัน ส่งผลต่อการทำงานตามปกติของอวัยวะสืบพันธุ์ นอกจากนี้ยังรวมถึงผู้หญิงที่ผ่านการผ่าตัดมดลูก และผนังหน้าท้อง ส่งผลให้ร่างกายสร้างพังผืดขึ้นได้ อีกทั้งอาจเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุได้เช่นเดียวกัน โดยการเกิดพังผืดในมดลูก จะเกิดขึ้นในบริเวณด้านหลังมดลูก ท่อนำไข่ หรือปีกมดลูก โดยสาเหตุเกิดพังผืดในมดลูก มีดังนี้ การอักเสบติดเชื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน สำหรับผู้ที่จะทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi แต่เกิดโรคอักเสบในอุ้งเชิงกราน (Pelvic Inflammatory Disease) สามารถทำให้เกิดพังผืดได้ ซึ่งสาเหตุการติดเชื้อมีทั้งการติดเชื้อจากการร่วมเพศ ทำให้เกิดแบคทีเรีย เช่น คลาไมเดีย และหนองในเทา…
ไขข้อข้องใจค่า AMH บ่งชี้ PCOS ทำเด็กหลอดแก้วสำเร็จหรือไม่ ฮอร์โมน AMH (Anti-Müllerian Hormone) นั้นเปรียบเสมือนตัวแทนจากรังไข่ ที่คอยบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับปริมาณ และคุณภาพของไข่ที่เหลืออยู่ในรังไข่ของผู้หญิงเรา ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวางแผนการมีบุตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงที่กำลังเผชิญกับปัญหาภาวะมีบุตรยาก และกำลังเข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf icsi รู้จัก AMH ก่อน ทำ ivf icsi ฮอร์โมน AMH (Anti-Mullerian Hormone) หรือที่เรียกกันว่า ฮอร์โมนแอนตี้มูลเลอเรียน เรียกสั้นๆ ว่า AMH เป็น ฮอร์โมนที่ถูกสร้างมาจากไข่ในรังไข่ของคุณผู้หญิง เป็นตัวบ่งบอกความสามารถในการทำงานของรังไข่และบอกจำนวนไข่ที่สามารถผลิตได้ในขณะนั้น AMH คือ ฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจากฟอลลิเคิลที่กำลังพัฒนา ซึ่งเป็นถุงไข่ที่มีไข่ที่ยังไม่เจริญเต็มที่ AMH จะลดลงตามอายุ เนื่องจากจำนวนฟอลลิเคิลลดลง และอย่างที่ทราบดีว่าผู้หญิงที่มีภาวะ PCOS มักจะมีระดับ AMH ที่สูงขึ้น สำหรับการตรวจระดับ AMH ของฝ่ายหญิง สามารถตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ก่อนทำเด็กหลอดแก้ว ทำ…
ภาวะไข่ไม่ตก สัญญาณเตือนคู่รักที่อยากมีลูก ทำไมถึงยังไม่ตั้งครรภ์สักที เป็นคำถามที่ขีดเส้นใต้ไว้ในใจของคู่รักหลายๆ คู่ หนึ่งในปัญหาที่ทำให้คู่รักมีลูกยาก และอยากมีลูก ซึ่งมักพบบ่อยที่สุด ก็คือ ภาวะไข่ไม่ตก ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ และอาจส่งผลต่อการมีบุตรยากได้ สำหรับสาเหตุของภาวะไข่ไม่ตกนั้น มีด้วยกันหลากหลายปัจจัย อยากมีลูกทำความรู้จักภาวะไข่ไม่ตก “ภาวะไข่ไม่ตก” หมายถึง ภาวะที่ไม่มีการเจริญเติบโตของไข่ จนกระทั่งเป็นไข่ที่โตเต็มที่ในช่วงกึ่งกลางรอบเดือน จึงไม่มีไข่ที่ตกออกมาจากรังไข่ และเดินทางเข้าท่อนำไข่ เพื่อไปพบกับอสุจิที่เดินทางมาถึงท่อนำไข่ ซึ่งปกติไข่ที่โตเต็มที่จะมีขนาดประมาณ 2 ซม. ทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนเพศเอสตราไดออล (estradiol) และฮอร์โมนเพศเอสตราไดออลจะไปกระตุ้นที่ต่อมใต้สมองให้หลั่งฮอร์โมน LH (luteinizing hormone) เพื่อบังคับให้ไข่ตกเองตามธรรมชาติ ดังนั้นเมื่อไข่ไม่มีการเจริญเติบโต จึงไม่มีการสร้างฮอร์โมนเอสตราไดออลเพื่อไปกระตุ้นฮอร์โมนที่ต่อมใต้สมองให้หลั่งฮอร์โมนมาช่วยให้ไข่ตก ทำให้ไม่มีการตกไข่ โดยทั่วไปคนที่มีรอบเดือนมาสม่ำเสมอทุก ๆ 28 วัน มักจะมีการตกไข่เป็นประจำแต่ก็ไม่เสมอไป ในขณะที่ผู้ที่มีรอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ควรตรวจสุขภาพก่อน แต่งงาน เพราะรอบเดือนอาจสั้นยาวไม่แน่นอน หรือมีเลือดออกกะปริดกะปรอยบ่อยๆ มักเกิดจากภาวะไข่ไม่ตก ภาวะไข่ไม่ตกแบ่งออก 3 กลุ่ม Hypogonadotropic hypogonadism ซึ่งเป็นปัญหาหนึ่งของผู้ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi ivf…
เผชิญกับ pcos เตรียมตัวเองให้พร้อมก่อนทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi โรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) เป็นหนึ่งในภาวะสุขภาพการเจริญพันธุ์ของผู้หญิงที่พบบ่อยที่สุด ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้หญิงหลายล้านคนทั่วโลก PCOS ไม่ได้เป็นโรคที่ร้ายแรง แต่อาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์ได้ ด้วยเทคโนโลยีช่วยภาวะเจริญพันธุ์ที่ก้าวล้ำ การทำเด็กหลอดแก้ว ICSI ivf และการดูแลรักษาสุขภาพที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้ รู้จักภาวะ PCOS ก่อนทำ icsi ivf แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่ม PCOS ที่มีประจำเดือนมาตรงทุกรอบ การนับวันไข่ตกโดยการอัลตราซาวด์ จะมีความแม่นยำกว่าการนับไข่ตกโดยการนับวัน กลุ่ม PCOS ที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ คนกลุ่มนี้มักมีฮอร์โมนเพศชายสูง หรือมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน โดยการรักษาจะทำการกระตุ้นไข่ให้มีไข่ตก และนับวันไข่ตก โดยการกระตุ้นไข่อาจจะใช้ยากิน หรือยาฉีดร่วมด้วย เพื่อการตอบสนองของไข่ วิธีรักษาภาวะ PCOS ก่อนทำเด็กหลอดแก้ว ว่าที่คุณแม่ สามารถจัดการกับอาการต่าง ๆ ได้มากมายผ่านการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลดความเครียด ล้วนสามารถช่วยลดผลกระทบที่ PCOS มีต่อร่างกายได้อย่างมาก…
อยากมีลูกทำความเข้าใจภาวะ PCOS มีลูกยากแต่ไม่ใช่เรื่องยากที่จะรักษา เคยรู้สึกกังวลกับประจำเดือนที่ไม่สม่ำเสมอ สิวที่ไม่ยอมหาย หรือน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้หรือไม่ อาการเหล่านี้ ในบางครั้งผู้หญิงอาจรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ จนกว่าตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน หรืออยากมีลูก เพราะ นั่นคือ สัญญาณของภาวะ PCOS ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ และส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน รวมถึงความฝันอยากมีลูกได้ อยากมีลูก รู้จักภาวะ PCOS คืออะไร ภาวะ PCOS (Polycystic Ovary Syndrome) หรือถุงน้ำรังไข่หลายใบ เป็นภาวะทางการแพทย์ที่พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ เกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้รังไข่ผลิตฮอร์โมนเพศชาย หรือฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน หรืออินซูลินมากเกินไป ส่งผลให้เกิดถุงน้ำเล็กๆ จำนวนมากในรังไข่ และทำให้หยุดการตกไข่ โดยผู้หญิงที่เป็นภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ ส่วนมากจะอยู่ในช่วงอายุ 20 - 30 ปี หรืออยู่ในวัยเจริญพันธุ์มากถึง 15% นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้หญิงที่อยากมีลูก และเป็นโรคอ้วน หรือบุคคลอื่นในครอบครัวทางสายเลือดที่มีภาวะ PCOS PCOS ส่งผลต่อการตกไข่อย่างไร สำหรับผู้ที่ตรวจร่างกายก่อนแต่งงาน หรือผู้ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ…
รู้จักภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัย และวิธีการรักษา icsi เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์
“ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัย” หรือที่รู้จักกันก็คือ Premature Ovarian Insufficiency (POI) เป็นภาวะที่ทำให้คู่รักที่ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน และทำเด็กหลอดแก้ว หลายคนรู้สึกกังวลกับการรักษา และโอกาสการตั้งครรภ์ แต่ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบัน โอกาสในการมีบุตรของคู่รักเหล่านี้ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะเทคนิค icsi ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัยที่มีประสิทธิภาพ
ทำเด็กหลอดแก้ว รู้จักความล้มเหลวของรังไข่ก่อนวัยอันควร
ตามปกติผู้หญิงที่มีอายุเฉลี่ยของวัยหมดประจำเดือนตามธรรมชาติ จะอยู่ที่ 50 - 51 ปี แต่สำหรับผู้หญิงที่มีวัยหมดประจำเดือนในช่วงอายุระหว่าง 45 ถึง 55 ปี ถือว่าเป็นเรื่องปกติ วัยหมดประจำเดือน คือ การที่คนเราหยุดมีประจำเดือน และรังไข่หยุดปล่อยไข่ และหยุดสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน หากแพทย์ใช้คำว่า "วัยหมดประจำเดือนเร็ว" จะเกิดขึ้นระหว่างอายุ 40 - 45 ปี และหากใช้คำว่า "วัยหมดประจำเดือนโดยการผ่าตัด" จะใช้เมื่อมีการนำรังไข่ออก เช่น เพื่อป้องกันหรือรักษามะเร็ง ก่อนที่บุคคลนั้นจะเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนตามธรรมชาติ ) …
เลือกสเปิร์มทำ icsi อย่างไร เพื่อการปฏิสนธิที่สมบูรณ์ การทำ icsi คือ เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่คัดเลือกสเปิร์มที่มีคุณภาพดีที่สุดเพียงหนึ่งตัว มาฉีดเข้าไปในไข่โดยตรง เพื่อเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิ การเลือกสเปิร์มที่เหมาะสมจึงเป็นขั้นตอนสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคู่รักที่ทำเด็กหลอดแก้วด้วยการทำ icsi เหตุผลที่ต้องเลือกสเปิร์มที่แข็งแรงทำ icsi นอกจากช่วยเพิ่มโอกาสการผสมกับไข่และเกิดการปฏิสนธิได้สูง ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของตัวอ่อนที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม และเหตุผลสำคัญเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ เพราะการมีตัวอ่อนที่แข็งแรง และสมบูรณ์ จะช่วยให้การตั้งครรภ์ราบรื่น สเปิร์มมีรูปร่างเป็นอย่างไร และทำหน้าที่อะไรในการทำ icsi? สเปิร์ม คือ เซลล์สืบพันธุ์เพศชาย ซึ่งมีหน้าที่หลักในการปฏิสนธิกับไข่ รูปร่างของตัวอสุจิประกอบด้วยสามส่วน ศีรษะ คอ และหาง โดยที่หางจะช่วยให้สามารถเดินทางไปยังไข่ได้ ส่วนคอซึ่งเป็นที่เก็บไมโตคอนเดรีย ทำหน้าที่เป็นมอเตอร์ และให้พลังงานในการเคลื่อนไหวของหาง และส่วนหัว เป็นที่เก็บข้อมูลทางพันธุกรรมสเปิร์ม ถูกสร้างขึ้นในอัณฑะผ่านกระบวนการแบ่งเซลล์ที่เรียกว่าไมโอซิส ซึ่งจะช่วยลดปริมาณพันธุกรรม หลังจากผ่านท่อต่าง ๆ แล้ว จะถูกเก็บไว้ในท่อน้ำอสุจิจนกว่าจะถูกปล่อยออกมาระหว่างการหลั่งอสุจิ และเคลื่อนไปทางท่อนำไข่เพื่อพบกับไข่ ตามพันธุศาสตร์ สเปิร์มจะเป็นเซลล์เดี่ยว ซึ่งประกอบด้วย โครโมโซม 23 โครโมโซม ครึ่งหนึ่งของสารพันธุกรรมที่จำเป็นในการสร้างไซโกต นอกจากนี้เซลล์อสุจิจะกำหนดเพศของทารก ขึ้นอยู่กับว่าทารกมีโครโมโซม X (เพศหญิง)…
สิ่งที่ผู้ทำ icsi ทำเด็กหลอดแก้ว ควรรู้ก่อนย้ายตัวอ่อน “การย้ายตัวอ่อน” นับว่าเป็นขั้นตอนสุดท้าย และสำคัญที่สุดในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi ทำ ivf จึงทำให้คู่รักที่อยากมีลูกหลายๆ คู่ต่างตั้งตารอคอยให้ถึงวันนี้เร็วๆ ดังนั้นการเตรียมตัวก่อนย้ายตัวอ่อน ทั้งร่างกายและจิตใจจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อช่วยให้ตัวอ่อนสามารถฝังตัวได้อย่างสมบูรณ์ ลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ และเติบโตเป็นทารกในครรภ์ได้อย่างแข็งแรง สิ่งที่ผู้ทำ icsi ทำ ivf ควรรู้ก่อนย้ายตัวอ่อน ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการย้ายตัวอ่อน แพทย์จะทำการประเมินความพร้อมการทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi ทำ ivf โดยแพทย์จะทำการตรวจร่างกาย ตรวจเลือด และอัลตร้าซาวด์เพื่อประเมินความพร้อมของร่างกาย และโพรงมดลูก ซึ่งผนังมดลูกของฝ่ายหญิงควรจะมีความหนาตั้งแต่ 7 มิลลิเมตรขึ้นไป และไม่ควรเกิน 14 มิลลิเมตร มีลักษณะเป็นสามชั้น แพทย์อาจมีการปรับขนาดยา หรือชนิดของยาที่ใช้ในการเตรียมตัว เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายในการ ทำ icsi ทำ ivf โดยมีทั้งยารับประทาน และยาที่สอดใส่ทางช่องคลอด เพื่อเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูกก่อนถึงวันที่ย้ายตัวอ่อน 5 วัน หากแพทย์อัลตร้าซาวด์แล้วสงสัยว่า…
6 สิ่งที่ต้องทำ และ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหลังทำ ICSI เมื่อผ่านกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว หรือการทำ ICSI ไปแล้ว ยังมีอีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่คู่รักไม่ควรมองข้าม นั่น คือ การดูแลสุขภาพหลังทำ icsi เพราะการดูแลสุขภาพในช่วงนี้ เปรียบเสมือนการวางรากฐานสำคัญสู่การตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์ และปลอดภัยของว่าที่คุณแม่ ทำไมต้องดูแลสุขภาพหลังทำ icsi ร่างกายของฝ่ายหญิงที่ผ่านกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi ผลลัพธ์ที่ตามมาฮอร์โมนต่างๆ จะเกิดความเปลี่ยนแปลง ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน ไม่ว่าจะเป็น ภาวะแท้งบุตร ภาวะรังไข่โตเกินขนาด และภาวะติดเชื้อ นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นฟูจากกระบวนการ ICSI ซึ่งจะสร้างความฝันอันยิ่งใหญ่ให้เป็นจริงให้คู่รักได้สัมผัสลูกน้อย 6 สิ่งที่ต้องทำหลังทำ icsi 1 . พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากขั้นตอนการทำ icsi และเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ โดยหลังทำ ICSI ควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้ 8-10 ชั่วโมงต่อคืนในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก ทำใจให้สบายๆ หาหนังสือดีๆ สักเล่มสำหรับอ่าน หรือดูหนังแนวตลกๆ…
เจาะลึกข้อดีและข้อจำกัดการตรวจโครโมโซมตัวอ่อนความหวังของการมีลูก เทคโนโลยีการตรวจโครโมโซมตัวอ่อน ซึ่งปัจจุบันมีทั้งการตวรจแบบ NGS และการตรวจแบบ PGT เปรียบเสมือนเข็มนำทางคู่รัก ที่กำลังจะเข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว icsi ivf ให้มีลูกได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ทำไมการตรวจโครโมโซมตัวอ่อนจึงมีความสำคัญกับคู่รัก แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อจำกัดที่เกิดขึ้นในบางประการที่คู่รักควรรู้ก่อนตรวจ บทความนี้ จะพาคู่รักหลายๆ คู่ ที่ควรตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน หรือผู้ที่ทำเด็กหลอดแก้ว ไปได้ทำความรู้จักข้อดี และข้อจำกัดการตรวจโครโมโซม และควรตัดสินใจอย่างไร มาเริ่มกันเลย การตรวจโครโมโซมตัวอ่อน (NGS) คืออะไร? NGS หรือ Next Generation Sequencing เป็นเทคโนโลยีทางพันธุกรรมที่ใช้ตรวจสอบความผิดปกติของโครโมโซมในตัวอ่อน โดยการนำเซลล์บางส่วนจากตัวอ่อนมาตรวจวิเคราะห์ลำดับดีเอ็นเอ หรือเบส ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่เล็กที่สุดของโครโมโซม โดยสามารถตรวจความผิดปกติของโครโมโซมครอบคลุม 24 โครโมโซมได้ในครั้งเดียว และที่สำคัญมีความแม่นยำสูง อัตราการเกิดการผิดพลาดต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับเทคนิคอื่นๆ ข้อดีของการตรวจโครโมโซมตัวอ่อน 1.การคัดเลือกตัวอ่อนที่มีคุณภาพดีขึ้น การตรวจโครโมโซมตัวอ่อน จะช่วยคัดแยกตัวอ่อนที่มีโครโมโซมปกติ และแยกตัวอ่อนที่ไม่สามารถพัฒนาเป็นทารกที่แข็งแรงได้ โดยการประเมินลักษณะทางรูปร่างของตัวอ่อน (Morphological Assessment) ทั้งการแบ่งเซลล์ ตัวอ่อนที่มีการแบ่งเซลล์สม่ำเสมอ มีจำนวนเซลล์เหมาะสมตามระยะเวลา หรือตัวอ่อนที่มีไซโทพลาสซึมใส ไม่มีเศษเซลล์ และตัวอ่อนที่มีนิวเคลียสชัดเจน…
การตรวจ AMH กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จทำ ICSI คู่รักที่มีบุตรยาก และอยากมีลูก หลายคู่ต่างใฝ่ฝันที่จะสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ เทคโนโลยีทางการแพทย์หรือการทำ icsi เปรียบเสมือนแสงสว่างช่วยให้ความฝันการมีลูกนั้นเป็นจริง แต่เส้นทางสู่ความสำเร็จอาจมีปัจจัยหลายประการที่มีอิทธิพลต่อการตั้งครรภ์ หนึ่งในนั้นก็คือระดับฮอร์โมน AMH ในร่างกายของผู้หญิง เพราะ AMH เป็นเหมือนเข็มทิศนำทาง บ่งบอกถึง "ปริมาณไข่สำรอง" ของผู้หญิง และเพื่อพาคู่รักไขข้อข้องใจ มาทำความรู้จักกับบทบาทสำคัญของ AMH และร่วมค้นพบว่า การตรวจ AMH นั้น สำคัญอย่างไรต่อการทำ ICSI เริ่มต้นกันเลย Anti-Müllerian Hormone (AMH) คืออะไร? Anti-Müllerian Hormone (AMH) หรือฮอร์โมนแอนตี้มูลเลอเรียน เรียกสั้นๆว่า AMH คือฮอร์โมนที่ผลิต โดยเซลล์ granulosa ในถุงไข่ของผู้หญิง เป็นตัวบ่งบอกความสามารถในการทำงานของรังไข่หรือบอกจำนวนไข่ที่สามารถผลิตได้ ฮอร์โมน AMH จะมีค่าสูงขึ้น และลดลงเรื่อยๆ เมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัว และจะลดลงจนหมดไปเมื่อมีอายุมากขึ้นหรือเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ฮอร์โมนแอนตี้มูลเลอเรียน สามารถมีค่าได้ 1.5 ถึง…