การตรวจ AMH กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จทำ ICSI คู่รักที่มีบุตรยาก และอยากมีลูก หลายคู่ต่างใฝ่ฝันที่จะสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ เทคโนโลยีทางการแพทย์หรือการทำ icsi เปรียบเสมือนแสงสว่างช่วยให้ความฝันการมีลูกนั้นเป็นจริง แต่เส้นทางสู่ความสำเร็จอาจมีปัจจัยหลายประการที่มีอิทธิพลต่อการตั้งครรภ์ หนึ่งในนั้นก็คือระดับฮอร์โมน AMH ในร่างกายของผู้หญิง เพราะ AMH เป็นเหมือนเข็มทิศนำทาง บ่งบอกถึง "ปริมาณไข่สำรอง" ของผู้หญิง และเพื่อพาคู่รักไขข้อข้องใจ มาทำความรู้จักกับบทบาทสำคัญของ AMH และร่วมค้นพบว่า การตรวจ AMH นั้น สำคัญอย่างไรต่อการทำ ICSI เริ่มต้นกันเลย Anti-Müllerian Hormone (AMH) คืออะไร? Anti-Müllerian Hormone (AMH) หรือฮอร์โมนแอนตี้มูลเลอเรียน เรียกสั้นๆว่า AMH คือฮอร์โมนที่ผลิต โดยเซลล์ granulosa ในถุงไข่ของผู้หญิง เป็นตัวบ่งบอกความสามารถในการทำงานของรังไข่หรือบอกจำนวนไข่ที่สามารถผลิตได้ ฮอร์โมน AMH จะมีค่าสูงขึ้น และลดลงเรื่อยๆ เมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัว และจะลดลงจนหมดไปเมื่อมีอายุมากขึ้นหรือเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ฮอร์โมนแอนตี้มูลเลอเรียน สามารถมีค่าได้ 1.5 ถึง…
ทำความรู้จักข้อกฎหมายการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ทำ ivf ทำ icsi ปัจจุบันมีคู่รักหลายคู่ที่เผชิญกับภาวะมีบุตรยาก การใช้เทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์จึงกลายมาเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่อยากมีลูก ดังนั้นกฎหมายที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ จึงเป็นเรื่องที่คู่รักต้องทำความรู้จัก และศึกษาให้ดี เพื่อกำหนดสถานะความพ่อ และแม่ ที่ชอบด้วยกฎหมายของเด็กที่เกิดโดยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ได้อย่างเหมาะสม ทำไมทำเด็กหลอดแก้วต้องรู้กฎหมาย และข้อบังคับ การมีกฎหมายสำหรับการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากในประเทศไทย เป็นการสร้างกรอบการดำเนินงานที่เป็นธรรม เพื่อความปลอดภัยของผู้ที่มีบุตรยาก ช่วยลดความเสี่ยง และเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา รวมถึงป้องกันการรักษาที่ไม่ได้มาตรฐานหรือผิดกฎหมาย ตลอดจนการแสวงหาผลประโยชน์ รวมถึงการเกิดปัญหาทางสังคม และที่สำคัญเพื่อเป็นป้องกันการละเมิดสิทธิ และรักษาจริยธรรมทางการแพทย์ในการดำเนินการด้านการรักษาภาวะมีบุตรยาก เช่น การทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi โดยกฎหมายการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 มีข้อบังคับ ดังนี้ 1.พระราชบัญญัติการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 กำหนดหลักเกณฑ์และข้อกำหนดในการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์และจริยธรรม ระบุว่าเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi สามารถใช้ได้กับคู่สมรสที่มีปัญหาการมีบุตรยากเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ใช้กับผู้ที่ยังไม่ได้สมรส กำหนดข้อห้ามในการให้บริการการรักษาผู้มีบุตรยากสำหรับผู้ที่มีอายุเกิน 55 ปี 2.ข้อกำหนดทางจริยธรรม การให้บริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ…
มดลูกบางหรือหนา มีผลต่อการเตรียมมดลูกทำเด็กหลอดแก้วแตกต่างกัน ระยะเวลาในการเตรียมมดลูกของผู้ที่เผชิญกับภาวะมีบุตรยาก ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงระดับฮอร์โมนพื้นฐาน สุขภาพทั่วไป และการตอบสนองต่อการรักษา โดยแพทย์จะทำการประเมินและปรับแผนการรักษาอย่างเหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการตั้งครรภ์ การเตรียมผนังมดลูก เป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญ และจำเป็นสำหรับผู้ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi ของผู้ที่มีบุตรยาก และอยากมีลูก เพราะเป็นกระบวนการที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ และสนับสนุนการเจริญเติบโตของตัวอ่อนในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ความหนาของผนังมดลูกมีผลต่อการตั้งครรภ์ เยื่อบุโพรงมดลูกของแต่ละคนหนาไม่เท่ากัน และในแต่ละรอบเดือนความหนาก็ไม่เท่ากัน ความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูกที่ดี โดยในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi ความหนาที่มีการฝังตัวของตัวอ่อนที่ดีคือ 8-14 มิลลิเมตร และโอกาสการฝังตัวจะลดลงอย่างชัดเจนเมื่อผนังมดลูกหนาน้อยกว่า 7 มิลลิเมตร ดังนั้นผนังมดลูกยิ่งหนาก็มีโอกาสท้องง่าย แต่หากหนามากกว่า 14 มิลมิเมตรจะทำให้ตั้งท้องยากขึ้น การฝังตัวอ่อน (Embryo Implantation) มีความสัมพันธ์กับผนังมดลูก เพราะตัวอ่อนที่ปฏิสนธิแล้วเคลื่อนตัวจากท่อนำไข่ เซลล์ที่รวมกันจะเริ่มเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว และเคลื่อนผ่านท่อนำไข่ท่อใดท่อหนึ่งไปยังมดลูก กลุ่มของเซลล์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วนี้เรียกว่า บลาสโตซิสต์ เมื่ออยู่ในมดลูก เซลล์กลุ่มเล็กๆ นี้จะต้องปลูกถ่ายเข้าไปในผนังมดลูก…
ทำความรู้จักการแบ่งเกรดตัวอ่อน คลินิกมีบุตรยากใช้เกณฑ์อะไรวัด การแบ่งเกรดตัวอ่อนและอัตราความสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้ว ทํา icsi ivf เป็นหนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดเมื่อคู่รักที่มีบุตรยาก และยากมีลูก ตัดสินใจเข้ามาใช้บริการคลินิกมีบุตรยาก เพราะการแบ่งเกรดตัวอ่อน ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จการตั้งครรภ์ เนื่องจากการแท้งบุตร 60% เกิดจากความผิดปกติของตัวอ่อน การแบ่งเกรดตัวอ่อนเพื่อทำเด็กหลอดแก้วคืออะไร การแบ่งเกรดตัวอ่อน เป็นวิธีการช่วยคัดเลือก และประเมินคุณภาพตัวอ่อนสำหรับการทำเด็กหลอดแก้ว ทํา icsi ivf โดยการแบ่งเกรด หรือให้คะแนนตัวอ่อน จะทำในตัวอ่อน 2 ระยะ ได้แก่ การทำในวันที่ 3 (Day 3) เรียกว่าระยะคลีเวจ (Cleavage) นักเพาะเลี้ยงตัวอ่อนเรียกระยะนี้ว่า "ระยะแตกแยก" แต่เซลล์จะไม่มีขนาดเพิ่มขึ้น การทำในวันที่ 5 (Day 5) เรียกว่า ระยะบลาสโตซิสต์ (Blastocyst) หลังเก็บไข่ โดยแพทย์จะประเมินระดับความพร้อมของตัวอ่อนแต่ละตัว และเวลาที่เหมาะสมสำหรับการย้ายตัวอ่อนกลับเข้าไปในมดลูก การคัดเกรดตัวอ่อนมีประโยชน์หรือไม่? การศึกษาที่ตีพิมพ์ในหอสมุดแพทยศาสตร์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าเอ็มบริโอที่มีเกรดสูงกว่าจะมีอัตราการตั้งครรภ์และอัตราเกิดยังชีพที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับตัวอ่อนที่มีเกรดต่ำ ซึ่งประโยชน์ของการคัดเกรดตัวอ่อนมี ดังนี้ การเลือกเอ็มบริโอคุณภาพดีจะให้ทนต่อการรักษาได้หลายประเภท เช่น การตรวจชิ้นเนื้อ PGT…
เมื่อทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi นับอายุครรภ์อย่างไรให้แม่นยำ เมื่อใส่ตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูก สำหรับคู่รักที่ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi หลายๆ คนมีคำถามว่าจะสามารถนับอายุครรภ์ได้อย่างไร เพื่อติดตามพัฒนาการของทารกในครรภ์ รวมถึงการเตรียมพร้อมการดูแล และการจัดการครรภ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้การนับอายุครรภ์ว่ามีความสำคัญมาก ก่อนที่จะเข้าสู่วิธีการนับอายุครรภ์เมื่อใส่ตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูกของฝ่ายหญิง มาทำความรู้จัก “อายุครรภ์” เป็นคำที่ใช้ในการตั้งครรภ์ ซึ่งหมายถึง “ระยะเวลาการตั้งครรภ์ของผู้หญิง” นั่นเอง สำหรับอายุครรภ์ หน่วยที่ใช้โดยทั่วไปในทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งครรภ์โดยธรรมชาติ หรือทำเด็กหลอดแก้ว คืออายุครรภ์จะนับเป็นสัปดาห์ โดยปกติแล้วผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ อายุครรภ์จะอยู่ที่ 40 สัปดาห์ หรือประมาณ 280 วัน ซึ่งการคำนวณของผู้หญิงที่ต้้งครรภ์โดยวิธีธรรมชาติ จะนับจากวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งสุดท้ายเป็นวันที่ 0 และนับต่อไปจนถึงวันที่ 6 สัปดาห์นี้จะถือเป็นสัปดาห์ที่ 0 และวันที่ 7-13 ก็จะถือว่าเป็นสัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ ส่วนหญิงที่ตั้งครรภ์โดยการทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf icsi จะมีวิธีการคำนวณที่ซับซ้อนเล็กน้อย ทำเด็กหลอดแก้วคำนวณอายุครรภ์ยังไง เมื่อคู่รักเข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ…
เมื่อฝากไข่แล้ว ขั้นตอนละลายตัวอ่อนเป็นอย่างไร คู่รักที่มีลูกยาก และผู้ที่อยากมีลูกเมื่อพร้อม และตัดสินใจแช่แข็งไข่หรือการฝากไข่ (Egg Freezing or Oocyte Cryopreservation) เพื่อเข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ทํา icsi ivf ในช่วงเวลาที่เหมาะสม “การละลายตัวอ่อน” หรือที่เรียกว่า Embryo thawing process จึงเป็นอีกกระบวนการหนึ่งที่ผู้เผชิญกับภาวะมีบุตรยาก มักตั้งคำถามอยู่เสมอว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง และเมื่อต้องละลายตัวอ่อนมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน เมื่อต้องฝากไข่ การละลายของตัวอ่อนคืออะไร? การละลายตัวอ่อน (Embryo thawing process) เป็นกระบวนการหนึ่งของผู้ที่แช่แข็งไข่ หรือการฝากไข่ (Egg Freezing or Oocyte Cryopreservation) โดยเป็นขั้นตอนที่ทำให้เอ็มบริโอ หรือตัวอ่อนแช่แข็งกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง กระบวนการนี้เป็นการนำเอ็มบริโอออกจากช่องแช่แข็ง ซึ่งเก็บไว้ที่อุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียส โดยนักเพาะพันธุ์ตัวอ่อน จะนำไปทำให้มีอุณหภูมิปกติ กระบวนการละลายตัวอ่อนแช่แข็งจะเป็นการละลายอย่างรวดเร็ว เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดน้ำแข็งในเซลล์ของเอ็มบริโอในระหว่างกระบวนการละลายตัวอ่อน ขั้นตอนการละลายตัวอ่อน การดึงสารป้องกันการแช่แข็งออก นักเพาะพันธุ์ตัวอ่อน จะนำไข่แช่แข็ง (egg freezing) ของผู้ที่ฝากไข่ ดึงสารป้องกันการแช่แข็งออกจากตัวอ่อน และแทนที่ด้วยน้ำที่ถูกนำออกมาในระหว่างกระบวนการแช่แข็ง…
มีลูกยากเตรียมผนังมดลูกให้พร้อมเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จตั้งครรภ์ มดลูกของผู้หญิง หรือที่เรียกว่า “เยื่อบุโพรงมดลูก” เป็นที่ที่ตัวอ่อนจะพัฒนา และฝังตัวในช่วงวันแรกของการตั้งครรภ์ สำหรับผู้หญิงที่ทำเด็กหลอดแก้ว ทํา icsi ivf ความหนา โครงสร้าง และการเปิดกว้าง ถือว่ามีความสำคัญ เพราะเมื่อมีสภาพแวดล้อมการหล่อเลี้ยงที่ดี จะส่งผลอย่างมากต่อความสามารถในการฝังตัวของเอ็มบริโอได้สำเร็จ มีบุตรยากควรทำความรู้จักเยื่อบุโพรงมดลูกคืออะไร “เยื่อบุโพรงมดลูก” เป็นชั้นของเนื้อเยื่อ (หรือเยื่อเมือก) ที่เรียงรายอยู่ด้านในของมดลูก ตลอดรอบประจำเดือน เยื่อเมือกนี้จะหนาขึ้นเมื่อคาดว่าจะตั้งครรภ์ ตามหลักการเยื่อบุโพรงมดลูกจะมีความหนาอย่างน้อย 8 มม. เมื่อเกิดการปฏิสนธิลงสู่มดลูกจะเกิดการฝังตัว แต่หากไม่เกิดการฝังตัวเยื่อบุจะบาง และหลุดออกส่งผลให้มีประจำเดือน การเปิดกว้างของเยื่อบุโพรงมดลูกคืออะไร? การเปิดกว้างของเยื่อบุโพรงมดลูก เกี่ยวข้องกับการสร้างสภาวะที่เหมาะสมสำหรับเอ็มบริโอในการฝังและเติบโตเป็นทารก ในแต่ละรอบประจำเดือน จะมีช่วงสองถึงสามวันที่เยื่อบุโพรงมดลูกจะเปิดรับแสงสูงสุด เรียกว่าหน้าต่างของการฝัง (WOI) ซึ่งมักเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 19 ถึงวันที่ 21 ของรอบประจำเดือน 28 วัน เยื่อบุโพรงมดลูกที่เหมาะกับการตั้งครรภ์ แม้ว่าเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ทำเด็กหลอดแก้ว ทํา icsi ivf ทํากิ๊ ฟ iui จะก้าวหน้าไปมาก แต่ความสำเร็จในการตั้งครรภ์…
หมดกังวลมีลูกยากทำ ICSI เลือกเพศลูกได้ เป้าหมายสูงสุดของคู่รักที่มีลูกยากและอยากมีลูก นอกจากปรารถนาที่จะมีลูกน้อยที่มีสุขภาพแข็งแรง การเลือกเพศเป็นอีกเหตุผลหนึ่งของคู่รักหลายๆ คู่ หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดคือ เมื่อทำ icsi สามารถเลือกเพศของลูกได้หรือไม่ และแม้ว่าจะสามารถเลือกเพศของทารกด้วยการปฏิสนธินอกร่างกายแล้ว แต่หลายคนสงสัยว่าเทคนิคดังกล่าวแม่นยำ 100% หรือไม่ การเลือกเพศที่เกิดขึ้นสามารถดำเนินการได้ในระหว่างกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi หรือเรียกอีกอย่างว่าการเลือกเพศผสมเทียม โดยจะมีการคัดเลือกตัวอ่อนของเพศที่เฉพาะเจาะจงก่อนที่จะย้ายเข้าสู่โพรงมดลูกของฝ่ายหญิง ซี่งเหตุผลที่คู่รักต้องการเลือกเพศลูกน้อย มีดังนี้ การสร้างสมดุลย์ให้กับครอบครัว พ่อแม่บางคนต้องการเลือกเพศของลูกเพื่อสร้างสมดุลในครอบครัว จากการที่ครอบครัวมีลูกเพศเดียวกันหลายคนอยู่แล้ว และต้องการมีลูกคนละเพศ หรือสำหรับคู่รักที่มีบุตรยากและอยากมีลูก และต้องการเลือกเพศลูกตามที่ครอบครัวต้องการ เช่น ต้องการเลือกเพศชายตามวัฒนธรรมของคนจีน เพื่อต้องการมีคนสืบสกุลให้กับครอบครัว การเลือกเพศจากเหตุผลทางการแพทย์ เพื่อเลี่ยงและป้องกันการส่งต่อโรคทางพันธุกรรมที่มีสาเหตุมาจากโครโมโซมเพศ (sex-linked diseases) มักจะเกิดขึ้นจากความผิดปกติทางพันธุกรรมบางอย่างส่งผลต่อเด็กบางเพศเท่านั้นหรือรุนแรงกว่าในเพศใดเพศหนึ่ง การเลือกเพศของทารกช่วยให้ลดความเสี่ยงความผิดปกติทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับเพศ เช่น โรคฮีโมฟีเลีย หรือโรคทางพันธุกรรมที่ทำให้เลือดแข็งตัว โดยในครอบครัวที่แม่เป็นพาหะ ทารกเพศชายจะมีโอกาสเป็นโรคถึง 50% แต่หากเด็กทารกหญิงมีโอกาสน้อยที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะนี้ ถามที่พบบ่อยที่สุดเกี่ยวกับการเลือกเพศ การทำ icsi สามารถเลือกเพศได้หรือไม่ ? ในทางการแพทย์ การทำอิ๊กซี่ ICSI หรือ Intracytoplasmic…
เปรียบชัดๆ เด็กหลอดแก้วกับเด็กเกิดธรรมชาติ การทำเด็กหลอดกลายเป็นทางเลือกการรักษายอดนิยมสำหรับคู่รักที่มีบุตรยากและอยากมีลูก เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์นี้ ได้ช่วยเหลือคู่รักหลายล้านคู่ทั่วโลกสำหรับการตั้งครรภ์และเริ่มต้นครอบครัวอย่างสมบูรณ์แบบ แต่คำถามหนึ่งมักพบบ่อยอยู่เสมอก็คือ เด็กที่เกิดโดยธรรมชาติกับเด็กหลอดแก้วต่างกันหรือไม่ จริงหรือไม่เด็กหลอดแก้วต่างกับเด็กเกิดโดยธรรมชาติ แม้ว่าเด็กที่เกิดจากเด็กหลอดแก้ว จะเป็นเด็กที่เกิดขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และใช้ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อทำให้ได้ผลลัพธ์ของการปฏิสนธิเกิดขึ้น โดยที่เอ็มบริโอไม่ได้ถูกสร้างขึ้นภายในร่างกายของผู้หญิง ส่วนสเปิร์มจะถูกหลอมรวมกันในสภาพห้องปฏิบัติการที่ได้รับการควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญด้านตัวอ่อน แทนที่จะเป็นท่อนำไข่ หรือกระทั่งการปฏิสนธิของการทำเด็กหลอดแก้วก็เกิดขึ้นในหลอดทดลอง เมื่อเอ็มบริโอถูกสร้างขึ้นโดยการหลอมรวมของสเปิร์มและไข่ในห้องแล็บ ตัวอ่อนจะถูกย้ายไปยังมดลูก ซึ่งเป็นที่ที่ตัวอ่อนถูกอุ้มและเลี้ยงดูเหมือนทารกที่ตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ จึงทำให้เด็กที่เกิดจากเด็กหลอดแก้ว ลักษณะทางร่างกายและจิตใจของทารกจึงไม่มีความแตกต่างกันกับเด็กที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ โดยมีข้อมูล ดังนี้ โอกาสตั้งครรภ์ผิดปกติไม่ต่างกันมาก จากการศึกษาต่างๆ พบว่าเปอร์เซ็นต์ของการตั้งครรภ์ผิดปกติในการปฏิสนธิตามธรรมชาติอยู่ที่ประมาณ 4% ส่วนการทำเด็กหลอดแก้ว ตัวเลขนี้จะสูงกว่าเล็กน้อยอยู่ที่ 7-8% โดยความแตกต่างนี้อาจเนื่องมาจากอายุโดยทั่วไปที่สูงขึ้นของผู้ที่ทำเด็กหลอดแก้ว เด็กหลอดแก้วเสี่ยงต่อความผิดปกติของทารก จะเกิดขึ้นจากปัจจัยภายในที่อาจส่งผลต่อความผิดปกติ เช่น ข้อบกพร่องของโครโมโซมหรือทางพันธุกรรมในตัวอสุจิหรือไข่อาจส่งผลให้ทารกผิดปกติได้ แต่ความเสี่ยงนี้มีอยู่ในทั้งการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติและการตั้งครรภ์ที่ทำเด็กหลอดแก้ว การพัฒนาเอ็มบริโอส่งผลต่อความผิดปกติโครโมโซม ไม่ว่าจะตั้งครรภ์ตามธรรมชาติหรือผ่านการทำเด็กหลอดแก้ว เริ่มต้นจากเซลล์เดียวที่แบ่งตามการแบ่งเซลล์ หากส่วนเล็กๆ ของโครโมโซมหายไปหรือมีการแบ่งตัวไม่เท่ากัน อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติของโครโมโซมได้ อย่างไรก็ตาม โอกาสที่สิ่งนี้จะเกิดขึ้นจะเท่ากันทั้งในการตั้งครรภ์ผ่านการทำเด็กหลอดแก้วและการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ สุขภาพโดยรวมเด็กหลอดแก้วอ่อนแอจริงหรือไม่ การศึกษาจำนวนมากจากการวิจัย และตีพิมพ์ ตีพิมพ์ใน JAMA Network Open เด็กที่เกิดจากการทำเด็กหลอดแก้วกับเด็กที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ โดยทั่วไปจะมีสุขภาพที่ดีพอๆ โดยการวิจัยได้นำเด็กทั้งสองประเภทจำนนวนมากกว่า 1.5 ล้านคน…
มีลูกยากวางแผนทำเด็กหลอดแก้ว IVF ICSI กี่รอบ การทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi เป็นกระบวนการที่สำคัญของผู้ที่มีลูกยากและอยากมีลูก เพราะเป็นทุกขั้นตอนใช้ทั้งพลังงาน อารมณ์ เวลา ของผู้ที่ต้องการจะเป็นคุณพ่อและคุณแม่ ซึ่งยังไม่รวมถึงการมีงบประมาณที่พอสำหรับการทำเด็กหลอดแก้ว จึงไม่แปลก ที่ผู้ทำเด็กหลอดแก้วหรือคู่รักจะต้องการทราบว่า ควรวางแผนทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf ทำ icsi กี่รอบถึงจะประสบความสำเร็จการตั้งครรภ์ ซึ่งในทางการแพทย์ความสามารถการตั้งครรภ์นั้น มีความแตกต่างกันไป ซึ่งขึ้นอยู่กับการการวินิจฉัยภาวะมีบุตรยาก มีลูกยากวางแผนทำ ivf ทำ icsi กี่รอบ เริ่มต้นที่ คู่รักที่มีบุตรยากและอยากมีลูก ทำความรู้จักเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธ์ุทั้งสองวิธีโดยสังเขปกันก่อน IVF หรือ In vitro fertilization เป็นการนำสเปิร์มและไข่ออกมาทำการปฏิสนธิในห้องแล็ป เป็นการผสมเทียมเพื่อช่วยให้ผู้ที่มีลูกยากสามารถตั้งครรภ์ได้ ICSI หรือ Intracytoplasmic Sperm Injection เรียกว่า “การทำอิ๊กซี่” เป็นการช่วยปฎิสนธิโดยวิธีฉีดอสุจิ 1 ตัวเข้าไปในเซลล์ไข่ ช่วยเพิ่มอัตราการปฎิสนธิและโอกาสการตั้งครรภ์ได้ จากการตรวจสอบข้อมูลการทำเด็กหลอดแก้วทั่วโลก นักวิจัยได้ระบุโอกาสที่ดีที่สุดที่จะประสบความสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้ว จะเกิดขึ้นเมื่อคู่รักทำเด็กหลอดแก้ว…
เรื่องที่คุณพ่อต้องรู้ อยากมีลูกสีอสุจิบ่งชี้เสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยาก
คู่รักหลายๆ คู่ที่เผชิญกับภาวะมีบุตรยาก บ่อยครั้งการมีลูกยากไม่ได้เกิดจากฝ่ายหญิง แต่อาจจะเกิดจากฝ่ายชายที่มีน้ำเชื้อไม่มีตัวอสุจิ อสุจิไม่แข็งแรง น้ำเชื้ออ่อน ดังนั้นอสุจิถือว่าเป็นเซลล์สืบพันธุ์ที่มีความสำคัญ จะถูกหลั่งออกมาทางอวัยวะเพศชายพร้อมกับน้ำเลี้ยง
และเป็นที่ทราบกันดีว่า ลักษณะของน้ำเชื้อโดยทั่วไปจะมีลักษณะเป็นสีขาวข้น หรือสีเหลืองอ่อน เพราะมีส่วนประกอบจากตัวอสุจิและน้ำหล่อเลี้ยงต่างๆ แต่ในกรณีที่สีของอสุจิเกิดความเปลี่ยนแปลง นั้นคือการส่งสัญญาณภาวะสืบพันธุ์กำลังมีปัญหา และเป็นข้อบ่งชี้คู่รักเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะมีบุตรยาก
ทำความรู้จักอสุจิก่อนทำเด็กหลอดแก้ว
‘ตัวอสุจิ’ ของผู้ชายประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่ ส่วนหัว เป็นส่วนที่มีนิวเคลียสอยู่ ส่วนตัวมีลักษณะเป็นทรงกระบอกยาว และส่วนหางเป็นส่วนที่ใช้สำหรับการเคลื่อนที่ น้ำอสุจิจะมีค่า pH ประมาณ 7.35-7.50 มีสภาวะค่อนข้าง เป็นเบส ในน้ำอสุจินอกจากจะมีตัวอสุจิแล้ว ยังมีส่วนผสม ของสารอื่นๆ ประกอบด้วย
น้ำอสุจิเป็นส่วนสำคัญของระบบสืบพันธุ์เพศชาย และมีความสำคัญมากสำหรับผู้ที่ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi ทำ ivf เพราะต้องฉีดเชื้ออสุจิไปในไข่หนึ่งฟองในห้องปฏิบัติการเพื่อสร้างตัวอ่อน น้ำอสุจิ ประกอบด้วยสเปิร์ม แต่เป็นของเหลวที่ซับซ้อนซึ่งมีสารอื่นๆ การศึกษาระบุว่าน้ำอสุจิที่ดีต่อสุขภาพ จะประกอบด้วย
วิตามิน เอนไซม์ แร่ธาตุ โปรตีน สารต้านอนุมูลอิสระ น้ำตาล สารประกอบเหล่านี้ช่วยให้สเปิร์มพัฒนาและปกป้องจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม
น้ำอสุจิยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อผสมกับสารอื่นๆ ที่มีอยู่ในน้ำอสุจิ…
ทำ icsi เทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์สำหรับคุณพ่อมีสเปิร์มน้อย ภาวะมีบุตรยากของคู่รักในปัจจุบัน สาเหตุหนึ่งอาจจะเกิดจากผู้ชายมีสเปิร์มน้อยกว่า 16 ล้านตัวต่อน้ำอสุจิหนึ่งมิลลิลิตร ภายหลังจากผู้ชายที่หลั่งออกมาระหว่างการถึงจุดสุดยอด ทางการแพทย์จะถือว่า เป็นการเข้าเกณฑ์จำนวนสเปิร์มถือว่า "ต่ำกว่าปกติ" การมีจำนวนสเปิร์มต่ำกว่าปกติ หมายความว่า สเปิร์มจะมีโอกาสน้อยที่จะปฏิสนธิกับไข่ของคู่รักลดลง ซึ่งส่งผลให้โอกาสประสบความสำเร็จการตั้งครรภ์น้อยลง ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ที่คลินิกมีบุตรยากนิยมนำมารักษาฝ่ายชายที่มีสเปิร์มต่ำ คือ การทำเด็กหลอดแก้ว รวมถึงวิธีการรักษาต่างๆ เพื่อกระตุ้นสเปิร์ม มีลูกยากรักษาฝ่ายชายสเปิร์มน้อยได้อย่างไร การมีสเปิร์มต่ำของฝ่ายชาย สามารถเกิดขึ้นได้หลายปัจจัย ตั้งแต่การสูบบุหรี่ และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปจนถึงการใช้ยาบางชนิดหรือการเจ็บป่วยในระยะยาว โดยการรักษาโดยใช้เทคโนโลยีช่วยเจริญพันธ์ุที่เป็นทางเลือกของคู่รัก มีวิธีดังต่อไปนี้ การทำ iui คือ เป็นการฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง เป็นการฉีดสเปิร์มที่ผ่านการคัดกรองตัวที่แข็งแรงเข้าไปในโพรงมดลูกโดยตรง ซึ่งวิธีการรักษา iui จะเหมาะกับฝ่ายชายที่มีจำนวนสเปิร์มมากกว่า 8-10 ล้าน/มล. หรืออย่างน้อย 20% ของตัวสเปิร์มเป็นแบบ motile UI ก็สามารถทำได้ การทำเด็กหลอดแก้ว ทำ icsi ทำ ivf เหมาะกับฝ่ายชายที่มีจำนวนสเปิร์มน้อยกว่า 5-8 ล้าน/มล.…