ภาวะท้องลมเกิดจากอะไร ทำเด็กหลอดแก้ว เกิดภาวะท้องลมได้หรือไม่ บ่อยครั้งที่คลินิกมีบุตรยาก มักจะมีคำถามว่า ผู้ที่มีภาวะมีบุตรยากและอยากมีลูก และทำเด็กหลอดแก้ว ทำivf icsi มีโอกาสที่จะเผชิญกับภาวะ ‘ท้องลม’ หรือไม่ และท้องลมเกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง รวมถึงความอันตรายจากภาวะท้องลมเป็นอย่างไร จริงๆ แล้ว อาการท้องลม ถือเป็นความผิดปกติอย่างหนึ่งของการตั้งครรภ์ และใครบ้างที่เสี่ยงเป็นท้องลม ลองหาคำตอบกันเลย ภาวะท้องลมเกิดจากอะไร? ตามปกติเมื่อหญิงตั้งครรภ์ทั้งโดยธรรมชาติ หรือกระทั่งการทำเด็กหลอดแก้ว ทำivf ทำicsi คือ เทคโนโลยีการเจริญพันธ์ุที่นำสเปิร์มและไข่ออกมาทำการปฏิสนธิในห้องแล็ปและฉีดเข้าสู่โพรงมดลูก เมื่อไข่ที่ปฏิสนธิจะเกาะติดกับผนังมดลูก เมื่อตั้งครรภ์ประมาณ 5-6 สัปดาห์ ควรมีตัวอ่อนในถุงตั้งครรภ์ซึ่งเป็นที่ที่ทารกในครรภ์พัฒนา จะมีความกว้างประมาณ 18 มิลลิเมตร ถุงน้ำจะก่อตัวและเติบโต และพัฒนาเป็นตัวอ่อน แต่การเกิดภาวะท้องลม (Blighted Ovum) จะเกิดจากการที่ไข่ที่ปฏิสนธิฝังตัวเข้าไปในมดลูก แต่ไม่พัฒนาต่อเป็นตัวทารก หรือทารกหยุดการเจริญเติบโต จึงไม่มีทารกในถุงการตั้งครรภ์ (gestational Sac) จึงทำให้การตั้งครรภ์ของผู้มีบุตรยาก ไม่มีตัวอ่อนหรือตัวอ่อนสลาย ไปตั้งแต่ระยะเริ่มแรกของการตั้งครรภ์ แต่ถุงตั้งครรภ์ที่ซึ่งเอ็มบริโอจะพัฒนายังคงเติบโตต่อไป รกและถุงว่างขณะตั้งครรภ์จะปล่อยฮอร์โมนการตั้งครรภ์ แม้ว่าจะไม่มีตัวอ่อนก็ตาม …
ย้ายตัวอ่อนรอบแช่แข็งคืออะไร และช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้จริงหรือไม่ ข้อดีการย้ายตัวอ่อนแบบแช่แข็งเพิ่มโอกาสทำเด็กหลอดแก้วประสบความสำเร็จ เป็นหนึ่งในหัวข้อหนึ่งที่ถกเถียงกัน สำหรับการทำเด็กหลอดแก้ว ระหว่างการย้ายตัวอ่อนรอบสดกับการแช่แข็งตัวอ่อน คู่รักที่มีภาวะมีบุตรยากและอยากมีลูก ต้องพิจารณาเพื่อตัดสินใจว่าจะเลือกกระบวนการแบบไหนถึงจะเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ ในทางการแพทย์ทั้งสองวิธีมีข้อดีและข้อควรพิจารณาที่แตกต่างกัน และการเลือกกระบวนรักษานั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยการเจริญพันธุ์ของคู่รักที่มีบุตรยากและอยากมีลูก แต่เพื่อช่วยให้คู่รักพิจารณาของการย้ายตัวอ่อนทั้งสดหรือแบบแช่แข็ง เพื่อก้าวบนเส้นทางสู่ความเป็นพ่อแม่ได้สำเร็จ มาเริ่มกันเลย ทำความรู้จักการย้ายตัวอ่อนแบบแช่แข็งคืออะไรก่อนทำเด็กหลอดแก้ว การย้ายตัวอ่อนรอบแช่แข็ง (Frozen Cycle) เป็นการละลายตัวอ่อนตั้งแต่หนึ่งตัวขึ้นไปที่ถูกแช่แข็งในระหว่างรอบการรักษาครั้งก่อน และคลินิกมีบุตรยากจะนัดฝ่ายหญิงเพื่อย้ายตัวอ่อนกลับเข้าไปในโพรงมดลูกในรอบเดือนถัดไปหลังจากที่มีการใช้ยากระตุ้นรังไข่และเก็บไข่ผสมเป็นตัวอ่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนการย้ายตัวอ่อนรอบสด หรือ fresh cycle เป็นการย้ายตัวอ่อนในรอบที่ทำการกระตุ้นและเก็บไข่ คือหลังจากเก็บไข่และนำมาปฎิสนธินอกร่างกายกับสเปิร์ม จากนั้นจะเลี้ยงตัวอ่อนที่อยู่ในระยะ 2-3 วัน หรือระยะ Blastocyst ถ้าตัวอ่อนเติบโตดีและแข็งแรง คลินิกมีบุตรยากจะนัดฝ่ายหญิงมาย้ายตัวอ่อนที่คัดเลือกแล้วเข้าสู่โพรงมดลูก ปัจจุบัน คลินิกมีบุตรยาก นิยมให้บริการการย้ายตัวอ่อนรอบแช่แข็งเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมีอัตราความสำเร็จการตั้งครรภ์ที่สูงกว่าการย้ายตัวอ่อนแบบรอบสด นอกจากนี้การกระตุ้นไข่แล้วย้ายตัวอ่อนหากทำเป็นกระบวนการต่อเนื่อง จะทำให้เกิดความเสี่ยงกับภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นมากเกินไปด้วย ซึ่งการย้ายตัวอ่อนรอบแช่แข็งจะช่วยลดปัญหาดังกล่าวนี้ลดลง ย้ายตัวอ่อนแบบแช่แข็งโอกาสประสบความสำเร็จเท่าไร เมื่อเปรียบเทียบระหว่างอัตราการตั้งครรภ์ระหว่างการย้ายตัวอ่อนแบบแช่แข็งกับการย้ายตัวอ่อนรอบสด อัตราการตั้งครรภ์ในเอ็มบริโอแช่แข็งสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญในอัตราการ38.76% เมื่อเทียบกับกลุ่มเอ็มบริโอรอบสดอยู่ 15.65% นอกจากนี้อัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์จากการย้ายตัวอ่อนแบบแช่แข็งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงอายุของผู้หญิงที่ทำเด็กหลอดแก้ว มีดังนี้ ผู้หญิงที่มีอายุ 35 ปีหรือน้อยกว่า จะมีอัตราการตั้งครรภ์ 60%…
ความเสียหายของตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสต์ (Blastocyst)เกิดจากอะไร เปิดเหตุผลทำเด็กหลอดแก้วไม่สำเร็จ ตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสต์เกิดความเสียหาย การตั้งครรภ์ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้หญิงที่ประสบปัญหาภาวะมีบุตรยาก แต่ด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ทำเด็กหลอดแก้ว ทํา icsi ivf หรือกระทั่งการฝากไข่ ทำให้คู่รักมีโอกาสประสบความสำเร็จการตั้งครรภ์มากขึ้น แต่การทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf icsi ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดข้อผิดพลาดบางประการที่ทำให้เกิดอุปสรรคในการตั้งครรภ์ ปัญหาดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้แม้กระทั่งหลังการปฏิสนธิ ตัวอ่อนที่เกิดอาจไม่ฝังตัว หรือกระทั่งเอ็มบริโอหยุดพัฒนาในห้องปฏิบัติการ ทำความรู้จัก Blastocyst culture ก่อนทำเด็กหลอดแก้ว Blastocyst culture คือการเลี้ยงตัวอ่อนภายนอกร่างกาย โดยเป็นการปฏิสนธิไข่และสเปิร์มในห้องปฏิบัติการจนเป็นตัวอ่อน ซึ่งจะเลี้ยงตัวอ่อน 5-6 วัน เมื่อตัวอ่อนเจริญเติบโตจนได้เป็นตัวอ่อนในระยะบลาสโตซิสต์ โดยตัวอ่อนระยะนี้จะแบ่งชนิดของเซลล์ออกเป็น 2 ชนิด ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาของทารกในครรภ์ ดังนี้ เซลล์ที่จะเจริญไปเป็นทารก หรือเรียกว่า ‘มวลเซลล์ชั้นใน’ (inner cell mass) เซลล์ที่จะเจริญไปเป็นรก (trophectoderm) ซึ่งเป็นระยะที่พร้อมจะฝังตัว บทบาทของเซลล์ทั้ง 2 ชนิดมีผลต่อการพัฒนาการตั้งครรภ์ โดยที่มวลเซลล์ชั้นในและเซลล์โทรเฟกโตเดิร์ม บลาสโตซิสต์จะปรากฏเป็นลูกบอลกลวง โดยมีกลุ่มเซลล์อยู่ที่ขั้วใดขั้วหนึ่ง ลูกบอลกลวงนี้ทำจากเซลล์โทรเฟกโตเดิร์ม ซึ่งต่อมาเป็นส่วนหนึ่งของรก…
กระตุ้นไข่อย่างไรให้ได้ไข่ที่มีคุณภาพเหมาะสำหรับการทํา icsi เตรียมความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ จะช่วยให้ได้ไข่ที่มีคุณภาพดีเหมาะสำหรับการทํา icsi การกระตุ้นไข่เพื่อให้ได้ไข่ที่มีคุณภาพ มาใช้ในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ทํา icsi นั้นเป็นขั้นตอนสำคัญ ในช่วงของการกระตุ้นไข่ ผู้หญิงที่เตรียมตัวเป็นคุณแม่มือใหม่ จะต้องดูแลตัวเองและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เป็นอย่างดี เพื่อทำให้คุณภาพและปริมาณของไข่ให้มีคุณภาพเหมาะสมสำหรับการปฏิสนธิเพื่อเป็นตัวอ่อน ซึ่งจะเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ ทำไมคุณภาพของไข่เป็นสำคัญต่อการ ทํา icsi ? การทํา icsi คุณภาพของไข่ถือว่ามีความสำคัญ เพราะโดยปกติแล้วผู้หญิงเกิดมาพร้อมกับไข่ที่มีอยู่ประมาณ 1-2 ล้านฟอง และเมื่อเข้าสู่วัยแรกรุ่น จำนวนนี้จะลดลงเหลือประมาณ 400,000 ฟองที่ถูกเก็บไว้ในรังไข่ ในจำนวนนี้จะมีไข่เพียง 300 ถึง 400 ฟองเท่านั้นที่จะถูกตกไข่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ของผู้หญิง สำหรับผู้หญิงที่มีไข่สุขภาพดี มีความสำคัญต่อการมีประจำเดือนสม่ำเสมอ รวมถึงภาวะเจริญพันธุ์การตั้งครรภ์ คุณภาพของไข่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น อายุ พันธุกรรม การสัมผัสกับสิ่งแวดล้อม และความเครียด ดังนั้นคุณภาพของไข่ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการทํา icsi เพราะจะเพิ่มความน่าจะเป็นในการฝังตัวของตัวอ่อน เอ็มบริโอจะต้องแข็งแรงพอที่จะอยู่รอดได้ในระยะแรกของการพัฒนาในการตั้งครรภ์ เมื่อทํา icsi ตรวจสอบคุณภาพของไข่ได้อย่างไร? แม้ว่าจะไม่มีวิธีการที่แม่นยำในการตรวจสอบคุณภาพของไข่…
ข้อดีของการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานและการเตรียมความพร้อมทำเด็กหลอดแก้ว ส่งเสริมความตระหนักและความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพของคู่รักก่อนทำเด็กหลอดแก้ว การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ทำให้ทราบถึงสุขภาพของทั้งคู่ รวมถึงโอกาสตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย ทั้งด้วยวิธีธรรมชาติหรือเป็นผู้ที่ประสบกับภาวะมีบุตรยาก และอยากมีลูก เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมทำเด็กหลอดแก้ว ตั้งแต่เนิ่นๆ การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ปัจจุบันยังเป็นเรื่องที่คนไทยหรือคู่รักหลาย ๆ คู่ค่อนข้างให้ความสำคัญน้อย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก เพราะการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ทำให้ทราบถึงสุขภาพของทั้งคู่ รวมถึงโอกาสตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย ทั้งด้วยวิธีธรรมชาติหรือเป็นผู้ที่ประสบกับภาวะมีบุตรยาก และอยากมีลูก เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมทำเด็กหลอดแก้ว ตั้งแต่เนิ่นๆ ทำไมต้องตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน เป็นการส่งเสริมความตระหนักและความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพของคู่รัก ก่อนที่จะสร้างอนาคตที่มั่นคงร่วมกัน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับกับสมาชิกในครอบครัวทั้งกายและใจให้พร้อมสำหรับลูกน้อย เนื่องจากการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน จะช่วยประเมินความเสี่ยงของการเป็นพาหะในการแพร่เชื้อไปยังลูกหลาน ตลอดจนช่วยลดความเสี่ยงค่ารักษาพยาบาลที่ไม่จำเป็นและป้องกันได้ในอนาคต ซึ่งจะลดความเครียดและความตึงเครียดทางจิตใจอื่นๆ สำหรับสมาชิกในครอบครัวหากต้องมีการรักษาเกิดขึ้น ทำความรู้จักการตรวจความผิดปกติทางพันธุกรรม การทดสอบทางพันธุกรรม เป็นการตรวจคัดกรองเชิงรุกเพื่อตรวจหาความเสี่ยงของการเจ็บป่วยจากความผิดปกติทางพันธุกรรมที่แฝงอยู่ และช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นพาหะนำโรคไปสู่คนที่คุณรักและทารกในอนาคต การคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมช่วยกำหนดแนวทางการรักษาและป้องกัน และทำให้สามารถรักษาโรคได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้การทดสอบทางพันธุกรรมยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงของการแพ้ยาบางชนิด และช่วยให้การวางแผนครอบครัวมีความพร้อมด้วยความเข้าใจ สำหรับการทดสอบทางพันธุกรรมเกี่ยวข้องกับการที่แพทย์เก็บตัวอย่างเลือดจากคู่รักทั้งสองคน และดูผลรวมโดยรวมเพื่อตรวจสอบว่าการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมที่เฉพาะเจาะจง อาจทำให้เกิดภาวะร้ายแรงในเด็กในอนาคตหรือไม่ นอกจากนี้การรู้ข้อมูลสุขภาพทั่วไปของคู่รักยังช่วยในการทำนายโรคในอนาคต ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และทำให้การรักษาและป้องกันโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น ข้อดีการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน และโอกาสในการแพร่โรคไปยังคนที่คุณรักและทารกในอนาคต หรือกระทั่งโรคทางพันธุกรรม เพราะการตรวจสุขภาพเป็นการสกัดกั้นการส่งผ่านโรคสู่คนที่เรารัก ซึ่งสำหรับผู้มีบุตรยากและอยากมีลูกและทำเด็กหลอดแก้ว สามารถตรวจโครโมโซมตัวอ่อนก่อนการตั้งครรภ์ได้อีกทางหนึ่ง …
Embryo Glue : กาวช่วยการฝังตัวของตัวอ่อน เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ของผู้ที่มีบุตรยาก มีบุตรยาก ทำเด็กหลอดแก้ว Embryo Glue ช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ มีเด็กจำนวนมากที่เกิดมาพร้อมกับการทำเด็กหลอดแก้วโดยใช้ Embryo Glue หรือเรียกเป็นภาษาไทยว่าการติด ‘กาวตัวอ่อน’ ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่กาวจริงๆ อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่เป็นสารที่ถูกพัฒนาขึ้นประกอบด้วยสารที่เรียกว่าไฮยาลูโรแนน (Hyaluronan) หรือที่เรียกว่ากรดไฮยาลูโรนิกในระดับสูง Embryo Glue เป็นสารที่เลียนแบบการหลั่งของเยื่อบุโพรงมดลูกของผู้หญิง โดยเป็นสารที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ สำหรับผู้ที่มีลูกยากและรักษาด้วยเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ทำเด็กหลอดแก้วด้วยวิธี IVF และ ICSI ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว Embryo Glue เป็นเทคนิคที่นักเพาะพันธุ์ตัวอ่อนและแพทย์ด้านภาวะเจริญพันธุ์นิยมใช้กันมากขึ้น ทำไมต้องใช้ Embryo Glue ปกติโดยทั่วไปของผู้หญิงจะมีสาร Hyaluronan ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติและพบเป็นจำนวนมากในเยื่อบุโพรงมดลูกในช่วงเวลาที่มีการฝังตัวของตัวอ่อน ซึ่งสารชนิดนี้เป็นสารคัดหลั่งเหนียว จะช่วยให้การฝังตัวของตัวอ่อนได้ดีในโพรงมดลูก แต่สำหรับผู้ที่มีลูกยากและอยากมีลูก การใช้ Embryo Glue หรือ กาวติดตัวอ่อน เป็นน้ำยาที่ใช้ในการย้ายตัวอ่อน ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการฝังตัวของตัวอ่อนในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว Embryo Glue เป็นสารที่ประกอบด้วย 4 ชนิด ได้แก่…
ฉีดยากระตุ้นไข่ กับ กินยากระตุ้นไข่แบบไหนดีกว่ากัน ในขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว ทำเด็กหลอดแก้ว ทํา ICSI และ IVF ฉีดยากระตุ้นไข่ ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า การกระตุ้นไข่ เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนในการทำเด็กหลอดแก้วที่สำคัญ เนื่องจากการรักษาภาวะเจริญพันธุ์ มีจุดมุ่งหมายในการสร้างไข่หลายใบ เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ จึงเป็นที่มาของการกระตุ้นรังไข่ กระบวนการนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในต่อการปฏิสนธินอกร่างกายทั้งการทำ ICSI และ IVF รวมไปถึงการทำกิ๊ฟ การทำ IUI และการฝากไข่ ทำเด็กหลอดแก้วทำไมต้องกระตุ้นไข่ การกระตุ้นรังไข่เป็นขั้นตอนที่สองของการรักษาภาวะเจริญพันธุ์ ซึ่งต้องอธิบายว่าการทําเด็กหลอดแก้ว ด้วยการทำ IVF คือ การนำสเปิร์มและไข่ออกมาทำการปฏิสนธิในห้องแล็บ เช่นเดียวกับการทำ ICSI คือการปฎิสนธินอกร่างกาย ซึ่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน และมีความสัมพันธ์กับการกระตุ้นไข่ เพื่อเก็บไข่ที่โตเต็มที่จากรังไข่ของผู้หญิงให้ได้มากที่สุด และเพื่อให้ได้ไข่ที่มีคุณภาพสมบูรณ์ที่สุด การเก็บไข่หลายๆ ฟองจะช่วยเพิ่มโอกาสไข่ได้รับการปฏิสนธิและฝังตัวในมดลูก ซึ่งวิธีการกระตุ้นไข่สามารถแบ่งออก 2 วิธีด้วยกัน ดังนี้ ทานยากระตุ้นไข่ เป็นยาที่ใช้เพื่อกระตุ้นฮอร์โมนเพศหญิงให้รังไข่มีการผลิตไข่ที่มากขึ้น เมื่อทานเข้าไปแล้วจะเข้าไปกระตุ้นให้สมองสั่งการหลั่งฮอร์โมน สำหรับการกระตุ้นการสร้างไข่ให้มีคุณภาพตามที่ต้องการ ช่วยให้ไข่แต่ละใบมีความสมบูรณ์ และพร้อมสำหรับการปฏิสนธิในขั้นตอนของการทำเด็กหลอดแก้ว ด้วยวิธี ICSI IVF ทำกิ๊ฟ…
อยากมีลูกตอนอายุมาก ก็หมดกังวล เพราะฝากไข่แช่แข็ง(Egg freezing) พร้อมเมื่อไหร่ใช้ได้ทันที อายุมากหมดกังวล อยากมีลูกเมื่อพร้อมฝากไข่แช่แข็ง ช่วยรักษาภาวะเจริญพันธุ์ หากคู่รักหลายๆ คู่ หรือกระทั่งสาวโสดที่คิดจะสร้างครอบครัวและอยากจะมีลูกสักวันหนึ่ง แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากหน้าที่การงานกำลังเติบโต หรือในช่วงที่ต้องการใช้ชีวิตสนุกอย่างเต็มที่ แต่กลัวว่าจะมีลูกยากเมื่อตอนอายุมาก การแช่แข็งไข่หรือการฝากไข่ (Egg Freezing or Oocyte Cryopreservation) ถือว่าเป็นทางเลือกที่สามารถช่วยรักษาภาวะเจริญพันธุ์ได้ในอนาคต ทำไมต้องรักษาภาวะเจริญพันธุ์ เมื่ออายุของผู้หญิงมากขึ้นประสิทธิภาพของไข่และการตั้งครรภ์จะลดลง เนื่องจากการตั้งครรภ์ขึ้นอยู่กับคุณภาพของไข่ การรักษาภาวะเจริญพันธุ์ โดยวิธีการแช่แข็งไข่ (Egg freezing) จึงเป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่ช่วยให้ผู้หญิงสามารถเก็บไข่ไว้ในสภาพแช่แข็งเพื่อใช้ในการผสมเชื้อในอนาคต เป็นวิธีที่มีประโยชน์สำหรับผู้หญิงที่ต้องการรักษาภาวะเจริญพันธุ์หรือมีแผนการตั้งครรภ์ในอนาคต การแช่แข็งไข่ คืออะไร การแช่แข็งไข่หรือ Egg Freezing เป็นการเก็บรักษาไข่ที่อุณหภูมิ - 195 องศาเซลเซียส โดยการนำไข่ที่สมบูรณ์มาเก็บรักษาไว้ในไนโตรเจนเหลว เพื่อเก็บรักษาไข่ของผู้หญิง และเป็นการยืดหยุ่นให้ผู้หญิงสามารถเลือกการเจริญพันธุ์ในช่วงเวลาที่เหมาะสมได้ การผลิตไข่จะถูกเร่งโดยการใช้ยารักษาภาวะมีบุตรยาก จากนั้นไข่จะถูกดึงออกมาในกระบวนการคล้ายกับการผสมเทียมและเก็บไว้จนกว่าจะพร้อมที่จะมีลูก โดยกระบวนการ Egg Freezing จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ หลังจากที่เข้ารับการปรึกษาจากคลินิกผู้มีบุตรยาก หรือผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะเจริญพันธุ์ และต้องการฝากไข่…
ข้อดีและข้อเสียของการทำเด็กหลอดแก้ว IVF และ ICSI รับมือยังไงเมื่อทำเด็กหลอดแก้ว IVF และ ICSI มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ‘การทำเด็กหลอดแก้ว’ เป็นคำที่มีความหมายสำหรับคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยาก ที่ปรารถนาจะมีลูกน้อย เพราะการทำเด็กหลอดแก้วเป็นเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ที่ทำให้คู่รักบรรลุความฝันในการเป็นพ่อแม่ได้ แต่ด้วยขั้นตอนการปฏิสนธิไข่ทั้งในห้องปฏิบัติการ รวมถึงการก่อนย้ายเอ็มบริโอเข้าสู่มดลูกของฝ่ายหญิง นับว่าเป็น กระบวนการที่มีความซับซ้อนมากมาย ทุกๆ ขั้นตอนของการทำเด็กหลอดแก้ว IVF และ ICSI จึงมีภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นบางประการในระหว่างการทำเด็กหลอดแก้ว ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นข้อเสียก็ว่าได้ ดังนั้นเพื่อไขความกระจ่างให้กับคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยากและอยากมีลูก มาศึกษาเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียเพื่อพิจารณาประกอบการตัดสินใจรวมทั้งเตรียมพร้อมรับมือก่อนเข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้วจากคลินิกผู้มีบุตรยาก ทำเด็กหลอดแก้วมีข้อดีอย่างไรบ้าง เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ผู้มีภาวะมีบุตรยาก การทำเด็กหลอดแก้ว IVF และ ICSI เป็นกระบวนการที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีภาวะมีบุตรยาก ที่ไม่สามารถตั้งครรภ์ตามธรรมชาติได้ และรับการวินิจฉัยว่ามีปัญหาภาวะมีบุตรยาก อันเนื่องจากมีท่อนำไข่อุดตัน ความผิดปกติของการตกไข่ คุณภาพของไข่ลดลงเนื่องจากอายุ ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ในผู้หญิง และจำนวนสเปิร์มต่ำอันเนื่องมาจากสมรรถภาพทางเพศของฝ่ายชาย ดังนั้นข้อดีของการทำเด็กแก้วแบบ IVF และ ICSI เป็นเทคโนโลยีเจริญพันธ์ที่ดีที่สุด ช่วยเพิ่มโอกาสให้คู่รักประสบความสำเร็จกับการตั้งครรภ์ สามารถตรวจโครโมโซมตัวอ่อนได้ การตรวจโครโมโซมตัวอ่อน NGS…
อยากมีลูกปีมังกรวางแผนตอนนี้ทันหรือไม่ อยากมีเจ้าตัวน้อยปีมังกร วางแผน ทำivf icsi ได้เลย ก้าวเข้าสู่ปีมะโรงในปี 2024 นับว่าเป็นปีมงคลตามความเชื่อของชาวจีนและอีกหลายประเทศทั่วโลก เพราะมังกรเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ สติปัญญา และความสำเร็จ ที่สำคัญมีบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่เกิดปีมังกรมากมาย อาทิ จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ , Jack Dorsey ผู้ก่อตั้ง Twitter ,Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon หรือกระทั่งนักฟุตบอลในตำนานอย่างเปเล่ จึงไม่แปลกคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยาก อยากจะมีลูกปีมังกร ทำเด็กหลอดแก้ว ทำIVF และ ICSI ทันไหม สำหรับคู่รักหลายคู่ที่มีภาวะมีบุตรยาก และกำลังวางแผนทำเด็กหลอดแก้ว ทำ IVF และ ICSI ร่วมกับคลินิกผู้มีบัตรยาก ในช่วงเวลานี้ถือว่ายังพอมีเวลา เนื่องจากขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว จะใช้ระยะเวลาประมาณ 8-12 สัปดาห์ นับตั้งแต่การเตรียมตัว การเก็บไข่ จนกระทั่งถึงการตั้งครรภ์ แต่หากรวมทุกขั้นตอนตั้งแต่การตรวจสุขภาพก่อนปฏิสนธิและการทดสอบภาวะเจริญพันธุ์จะใช้เวลา 4 เดือน เพื่อเข้าสู่กระบวนการตั้งครรภ์ วางแผนทำเด็กหลอดแก้วรับปีมังกร…
ทำไมต้องทานยาเตรียมผนังมดลูกก่อนใส่ตัวอ่อนในการทำ ICSI ข้อดีการทานยาเตรียมผนังมดลูกก่อนย้ายตัวอ่อน ในการทำ ICSI ผนังมดลูก (endometrium) ของผู้หญิงนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง โดยมีบทบาทที่สำคัญในหลายด้าน ทั้งในด้านของการฝังตัวของตัวอ่อน การสนับสนุนการเจริญเติบโตของตัวอ่อน การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการตั้งครรภ์ การป้องกันตัวอ่อนรติดเชื้อ และแรงกระแทกจากภายนอก การทานยาเตรียมผนังมดลูกก่อนการใส่ตัวอ่อนในการทำเด็กหลอดแก้ว จึงเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการ เพื่อให้ได้สภาพที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการฝังตัว และพัฒนาของตัวอ่อน ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ที่ประสบความสำเร็จ รวมไปถึงสุขภาพของทารกในครรภ์ ทำความรู้จักฮอร์โมน 2 ประเภท การเตรียมผนังมดลูกให้กับผู้ที่มีลูกยาก และอยากมีลูกผ่านการทำเด็กหลอดแก้ว มักใช้ฮอร์โมนที่สำคัญ 2 ประเภท ที่มีบทบาทที่สำคัญในการเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูก เอสโตรเจน (Estrogen) ทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้เยื่อบุหนา และพร้อมสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อน มีทั้งรูปแบบยาเม็ด ยาทาน ยาแปะผิวหนัง (transdermal patch) โปรเจสเตอโรน (Progesterone) ทำหน้าที่ช่วยปรับเยื่อบุโพรงมดลูกให้อยู่ในสภาพที่รับตัวอ่อนได้ และช่วยรักษาสภาพเยื่อบุให้เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของตัวอ่อนหลังจากการฝังตัว มีทั้งยาทาน ยาสอดช่องคลอด และยาเม็ด ทำไมต้องเตรียมผนังมดลูกก่อนใส่ตัวอ่อน การให้ยาฮอร์โมนสำหรับผู้ที่มีลูกยาก เป็นวิธีการเลียนแบบการพัฒนาของเยื่อบุโพรงมดลูกในรอบธรรมชาติ โดยในระยะประมาณ 2 สัปดาห์แรก ด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน…
ตรวจโครโมโซมตัวอ่อน สามารถตรวจระหว่างการตั้งครรภ์ได้หรือไม่ วางแผนครอบครัวให้พร้อม ทำเด็กหลอดแก้ว สามารถตรวจโครโมโซมตัวอ่อนระหว่างตั้งครรภ์ได้ ความปรารถนาของผู้ที่เป็นพ่อเป็นแม่ คงหนีไม่พ้นการมีลูกที่มีร่างกายสมบูรณ์และแข็งแรง การตรวจโครโมโซมตัวอ่อน จึงเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่่มีความสำคัญมากและได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเป็นการตรวจวิเคราะห์ เพื่อคัดกรองความผิดปกติของตัวอ่อนก่อนย้ายเข้าสู่โพรงมดลูกของฝ่ายหญิง ซึ่งเป็นคัดกรองลดความเสี่ยงการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ หากคู่รักที่มีบุตรยาก ทำเด็กหลอดแก้ว ทำ ivf icsi ไม่ได้ตัดสินใจตรวจโครโมโซมตัวอ่อนในระยะบลาสโตซิสต์ในวันที่ 5 หรือวันที่ 6 ของเพาะเลี้ยง เพื่อนำมาใช้วิเคราะห์สารพันธุกรรม คำถามที่พบอยู่บ่อยครั้ง ก็คือ ยังสามารถตรวจโครโมโซมตัวอ่อนระหว่างการตั้งครรภ์ได้หรือไม่ ในทางการแพทย์แล้วสามารถตรวจโครโมโซมตัวอ่อนระหว่างการตั้งครรภ์ได้ เพราะการตรวจก่อนหรือระหว่างการตั้งครรภ์มีวัตถุประสงค์แตกต่างกันออกไป ตรวจโครโมโซมตัวอ่อนก่อนหรือระหว่างตั้งครรภ์แบบไหนดีกว่ากัน การตรวจโครโมโซมตัวอ่อนก่อนการตั้งครรภ์ เป็นการหาความเสี่ยงความผิดปกติโครโมโซมให้กับตัวอ่อน ก่อนย้ายเข้าสู่โพรงมดลูกเพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์ต่อไป เพราะมากกว่าครึ่งหนึ่งของความล้มเหลวจากการทำเด็กหลอดแก้วโดยไม่ทราบสาเหตุ อธิบายได้ว่าอาจเกิดจากคุณภาพของตัวอ่อน การตรวจโครโมโซมตัวอ่อนระหว่างตั้งครรภ์ เป็นการวางแผนเพื่อให้คู่รักที่มีบุตรยาก ทำ ivf icsi สามารถวางแผนการตั้งครรภ์ได้ถูกต้อง และหากทราบความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์จนถึงวันที่คลอด จะทำให้คู่รักสามารถเตรียมตัวรองรับกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม วิธีการตรวจโครโมโซมตัวอ่อนระหว่างตั้งครรภ์ การตรวจแบบ NIPT Test หรือ Non-Invasive Prenatal Testing เป็นการตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์จากเลือดมารดาประมาณ…