ทานยาคุมกำเนิดมีผลต่อการทำเด็กหลอดแก้ว IVF/ICSI หรือไม่
ทานยาคุมกำเนิด เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์สำหรับผู้ที่ทำเด็กหลอดแก้ว IVF/ICSI
การกินยาคุมกำเนิด ดูเหมือนว่าจะเป็นวิธีการที่สวนทางหรือผิดวัตถุประสงค์ สำหรับคู่รักที่มีลูกยากและอยากมีลูก และตัดสินใจใช้เทคโนโลยีเจริญพันธุ์ด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว IVF/ICSI ซึ่งในทางการแพทย์แล้วนั้น การทานยาคุมกำเนิดสำหรับคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยาก ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการมีบุตร แต่การทานยาคุมกำเนิดถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นก่อนเข้าสู่กระบวนการเด็กหลอดแก้ว IVF/ICSI
ทำไมต้องทานยาคุมกำเนิด เพราะการทำเด็กหลอดแก้ว IVF/ICSI ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดการควบคุมช่วงเวลาของการตกไข่ เพราะเป็นหนึ่งในกระบวนการที่ช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้ประสบความสำเร็จได้ แพทย์ที่ดูแลคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยาก จึงมักแนะนำทานยาคุมกำเนิด (Birth control pill) ก่อนเข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว
ยาคุมกำเนิดทำงานอย่างไร
การทานยาคุมกำเนิด (Birth control pill) เป็นวิธีคุมกำเนิดฮอร์โมนเพศหญิง คือ เอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) เพื่อออกฤทธิ์ต่อการทำงานของอวัยวะสืบพันธุ์ยับยั้งการตกไข่ โดยจะมีผลต่อผนังมดลูก ทำให้ผนังมดลูกบางจนตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัวได้ ทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือมีผลในการยับยั้งกระบวนการก่อนเกิดการปฏิสนธิ (fertilization) ท่อนำไข่เคลื่อนไหวน้อย ทำให้ไข่ที่ถูกผสมไม่ทันฝังตัวเกิดมูกหรือเมือกที่ปากมดลูก และทำให้ปากมดลูกมีความเหนียวข้นส่งผลให้อสุจิเคลื่อนผ่านเข้าไปได้ยากขึ้น โดยยาคุมกำเนิดมีด้วยกัน 2 ประเภทได้แก่
· ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม…
ตรวจโครโมโซมตัวอ่อนก่อนนำไปย้ายดีหรือไม่
ทำเด็กหลอดแก้ว IVF/ICSI ตรวจโครโมโซมตัวอ่อนก่อนนำไปย้ายสู่โพรงมดลูกดีหรือไม่
บ่อยครั้งที่คู่รักที่มีลูกยากและอยากมีลูก และตัดสินใจทำเด็กหลอดแก้ว IVF/ICSI มักตั้งคำถามที่ว่า “เราควรตรวจโครโมโซมตัวอ่อนนำไปย้ายดีหรือไม่” ในทางการแพทย์การตรวจคัดกรองโครโมโซมของตัวอ่อนเป็นทางเลือกหนึ่งของการการรักษาภาวะมีบุตรยาก โดยขึ้นอยู่กับความประสงค์ของคู่รักในแต่ละราย ซี่งการตรวจโครโมโซมก็มีทั้งด้านที่ดี และการไม่ตรวจโครโมโซมก็มีด้านดีด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานของคู่รักแต่ละคู่
แต่ก่อนที่คู่รักจะตัดสินใจตรวจโครโมโซมตัวอ่อนหรือไม่นั้น คู่รักควรทำการศึกษาข้อมูลถึงข้อดีหากตรวจโครโมโซมตัวอ่อน กับข้อดีหากไม่ตรวจโครโซมตัวอ่อน เพื่อคู่รักจะได้ประกอบการพิจารณาตัดสินใจว่า ต้องการจะทำการตรวจคัดกรองโครโมโซมของตัวอ่อนหรือไม่ โดยมีสิ่งที่ควรพิจารณาประกอบตัดสินใจตรวจโครโมโซมตัวอ่อน มีดังนี้
· ความเสี่ยงในการตัดดึงเซลล์ตัวอ่อน (Embryo Biopsy) การดึงเซลล์ตัวอ่อน 1-2 เซลล์จากตัวอ่อนระยะวันที่ 3 (ซึ่งปกติมี 8 เซลล์) อาจทำให้ตัวอ่อนหยุดการเจริญได้ทั้งก่อนหรือหลังการย้ายตัวอ่อนกลับ แต่โอกาสที่จะเกิดน้อยมาก เมื่อถึงเซลล์ในระยะวันที่ 5 หรือวันที่ 6 จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าการตัดเซลล์ตัวอ่อนทำให้ได้ทารกที่มีความผิดปกติ
· ห้องแล็ปตรวจโครโมโซมตัวอ่อนต้องมีศักยภาพและต้องมาตรฐานที่ดี เพื่อการตรวจโครโมโซมตัวอ่อนที่ดีเพียงพอ เพราะหากห้องแล็ปไม่ได้มาตรฐานเพียง จะทำให้ตัวอ่อนมีโอกาสเสี่ยงบอบช้ำหรือตายได้ในที่สุด
· ตัวอ่อนเจริญเติบโตดีและมีเกรดระดับดี กรณีที่ตรวจอ่อนมีเกรดระดับดีและมีการเจริญเติบโตที่ดีนั้น สามารถนำไปตรวจโครโมโซมตัวอ่อนก่อนย้ายเข้าสู่โพรงมดลูกของฝ่ายหญิงได้
· ตัวอ่อนอยู่ภาวะที่มีการเจริญเติบโตช้าและเกรดไม่ดี ในกรณีนี้ไม่แนะนำให้นำตัวอ่อนไปตรวจโครโมโซม เนื่องจากมีแนวโน้มว่าจะเป็นโครโมโซมตัวอ่อนจะมีความผิดปกติสูง ซึ่งจะทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมโดยใช่เหตุ
· ผู้หญิงที่มีอายุมาก ผู้หญิงไม่ว่าจะมีอายุน้อยหรือมากมีความเสี่ยงที่โครโมโซมตัวอ่อนจะผิดปกติ หากแต่ว่าผู้หญิงที่มีอายุ…
ฝากไข่ตั้งแต่เนินๆ ลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์
ทำไมต้องฝากไข่แต่เนินๆ เรื่องน่ารู้ของผู้หญิงยุคใหม่ที่ต้องการวางแผนมีลูกในอนาคต
การฝากไข่ หรือ Egg Freezing ของผู้หญิง เปรียบเหมือนกับการซื้อประกันรองรับความเสี่ยงในอนาคต สำหรับคู่รักที่ประสบกับปัญหาทางด้านสุขภาพในโรคต่างๆ หรือมีภาวะมีบุตรยาก จนไปถึงผู้ต้องการวางแผนครอบครัวและอยากมีลูกเมื่อพร้อมในอนาคต เพราะการฝากไข่ จะถูกเก็บรักษาไว้คงสภาพเดิมได้ยาวนานถึง 5 - 10 ปี โดยขึ้นอยู่กับอายุและความพร้อมของร่ายกาย และเมื่อถึงเวลาพร้อมหรืออยากมีลูกก็นำออกมาเพื่อเข้าสู่การกระบวนการตั้งครรภ์ด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว IVF/ICSI
หากแต่ว่าการที่คู่รักมีลูกยากและอยากมีลูก หรือผู้ที่ต้องการวางแผนครอบครัวอยากมีลูกเมื่อพร้อมในอนาคต จะประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ได้สูงนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วย ไม่ว่าจะเป็น ในด้านอายุและความพร้อมของร่ายกาย รวมทั้งช่วงเวลาของการฝากไข่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยด้วยเช่นเดียวกัน โดยในทางการแพทย์นั้น ‘การฝากไข่’ ซึ่งขึ้นอยู่กับช่วงอายุของผู้หญิง ยิ่งมีอายุน้อยๆ เท่าไร ก็มีโอกาสที่จะได้ไข่คุณภาพดีและมีไข่จำนวนมากนั่นเอง
5 เหตุผลสำคัญต้องฝากไข่ตั้งแต่เนิ่นๆ
การฝากไข่ของผู้หญิง สามารถทำได้ตั้งแต่ฝ่ายหญิงเริ่มมีประจำเดือน แต่ในช่วงอายุที่เหมาะสม ที่ไข่จะมีคุณภาพดีเหมาะสมที่สุดในการตั้งครรภ์คือ ช่วงวัยเจริญพันธุ์อายุ 22-28 ปี และเมื่อผู้หญิงเริ่มมีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป ปริมาณไข่จะเริ่มลดน้อยลง ดังนั้นหากคู่รักที่มีภาวะมีลูกยากและอยากมีลูก วางแผนฝากไข่และการทำเด็กหลอดแก้ว IVF/ICSI เมื่อพร้อมมีลูก ควรดำเนินการตั้งแต่เนิ่นๆ…
การแบ่งเกรดตัวอ่อนวัดจากอะไร
เกรดตัวอ่อน มีความสำคัญต่อการทำเด็กหลอดแก้ว ICSI IVF
เมื่อพูดถึงกระบวนการคัดเลือกตัวอ่อน ถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการทำเด็กหลอดแก้ว IVF / ICSI คู่รักหลายคู่ที่ประสบกับภาวะมีบุตรยากและอยากมีลูก จึงมักตั้งคำถามว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ‘ตัวอ่อน’ นั้นเป็นตัวอ่อนที่ดีก่อนที่จะย้ายเข้าสู่โพรงมดลูก เพราะการที่จะประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ส่วนหนึ่งจะขึ้นอยู่กับตัวอ่อนที่มีคุณภาพ ก่อนอื่นคู่รักที่มีลูกยากและอยากมีลูกควรทำความเข้าใจก่อนว่า การรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว IVF / ICSI ภายหลังจากที่ไข่ผสมกับสเปิร์มแล้ว แพทย์จะนำไปเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการโดยนักเพาะเลี้ยงตัวอ่อนจะดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งในระยะเวลาพัฒนาตัวอ่อนก็อยู่ที่ประมาณ 5-6 วัน ในช่วงนี้ก็จะมีการแบ่งเกรดของตัวอ่อน ด้วยกัน 2 ระยะ ดังนี้
1.ระยะคลีเวจ (Cleavage)
เป็นระยะที่ตัวอ่อนเกิดการแบ่งตัว เป็นระยะหลังไข่กับสเปิร์มผสมกันแล้ว 24 - 72 ชั่วโมงเป็นระยะที่ไข่กับสเปิร์มผสมกันแล้ว 24 ชั่วโมงเป็นต้นไป จนไปถึงไม่เกินวันที่ 4 จะแบ่งเกรด โดยอ้างอิงตามมาตรฐานสากลจากเกณฑ์การให้คะแนนตัวอ่อนของ Istanbul Consensus Scoring System…
การทำ icsi สามารถเลือกเพศได้หรือไม่?
ตรวจโครโมโซม NGS ตัวช่วยของคู่รักมีลูกยากและอยากเลือกเพศด้วยการทำ ICSI
การรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ สำหรับคู่รักที่ประสบกับปัญหามีลูกยากและอยากมีลูก บ่อยครั้งที่คู่รักหลายคู่มักเกิดคำถามที่ว่า เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ โดยการทำเด็กหลอดแก้ว ICSI IVF สามารถเลือกเพศของลูกได้หรือไม่? ยิ่งสถานการณ์การมีบุตรในไทยต่ำลง แต่ละครอบครัวต้องการมีลูกเพียงคนเดียว ยิ่งทำให้เกิดความคาดหวังให้ลูกเป็นเพศที่ต้องการ การเลือกเพศเป็นหนึ่งในความปรารถนาของผู้ที่มีลูกยากและอยากมีลูก
เหตุผลที่ทำให้คู่รักที่ประสบกับภาวะมีบุตรยากและอยากมีลูก ต้องการเลือกเพศหลากหลายด้านด้วยกัน ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากความเชื่อในเรื่องการสืบสกุล หรืออาจจะเกิดขึ้นกับในกรณีที่พ่อแม่หรือบรรพบุรุษมีโรคทางพันธุกรรมบางอย่างที่สามารถถ่ายทอดไปยังลูกเฉพาะเพศใดเพศหนึ่งได้ เช่น โรคสังข์ทอง (Anhidrotic Ectodermal Dysplasia), โรคเลือด G6PD, โรคดาวน์ซินโดรมบางประเภท ฯลฯ ในกรณีที่พ่อแม่หรือคนในครอบครัวมีประวัติว่าเป็นโรคเหล่านี้ลูกชายจะมีภาวะเสี่ยงต่อโรคได้ แต่ลูกสาวภาวะเสี่ยงนี้จะไม่เกิดขึ้น
แต่ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการเลือกเพศด้วยวิธีการทำเด็กหลอดแก้วนั้น คู่รักที่มีลูกยากและอยากมีลูก ควรทำความเข้าใจปัจจัยการกำหนดเพศลูกก่อน เมื่อไข่ของฝ่ายหญิงมีโครโมโซมเพศเป็น XX ส่วนสเปิร์มของฝ่ายชายมีโครโมโซมเพศเป็น XY นั่นคือในน้ำอสุจิจะมีสเปิร์มอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ X คือ หญิง และ Y คือ ชาย แต่เมื่อเกิดการปฏิสนธิก็ขึ้นอยู่กับว่าสเปิร์มตัวไหนที่เข้าเจาะไข่ของแม่ๆ…
ความแตกต่างทางด้านเทคโนโลยีของ Genesis Fertility Center
อยากมีลูก เทคโนโลยี Eeva ช่วยผู้มีลูกยากด้วยวิธี ICSI
ภาวะมีบุตรยาก เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้ประเทศไทยเผชิญกับอัตราการเกิดของเด็กลดลง ปัจจุบันทางโรงพยาบาล สถานพยาบาล คลินิกสำหรับผู้มีบุตรยาก จึงเปิดบริการให้คำปรึกษา ตลอดจนการดูแลรักษาผู้ที่ประสบปัญหาภาวะมีบุตรยาก ภายใต้การใช้เทคโนโลยีช่วยในการเจริญพันธุ์ เพื่อให้คู่รักแต่ละคู่สามารถประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ แม้ว่าจะเป็นผู้ที่เข้าข่ายภาวะมีบุตรยาก ก็ตาม
เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ คืออะไร
เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ หรือ Assisted Reproductive Technology (ART) เป็นกระบวนการทางวิทยศาสตร์ที่ช่วยรักษาคู่สมรสที่ประสบปัญหามีลูกยาก ให้สามารถตั้งครรภ์ได้ โดยนำเซลล์สืบพันธ์ของทั้งฝ่ายชาย และฝ่ายหญิง ได้แก่ อสุจิ และไข่ ออกจากร่างกาย เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์โดยไม่เป็นไปตามธรรมชาติ รวมทั้งการผสมเทียม ซึ่งวิธีที่เคยถูกนำมาใช้ หรือยังถูกใช้อยู่ในปัจจุบันมีด้วยกัน 5 วิธี โดยมีรายละเอียดเบื้องต้น ดังนี้
1.การทำกิฟต์ (Gamete Intrafallopain Transfer: GIFT) เป็นการนำเซลล์ไข่และอสุจิเข้าไปในท่อนำไข่ เพื่อให้มีการปฏิสนธิในร่างกาย 2.การฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูก (Intrauterine insemination : IUI) เป็นการฉีดน้ำเชื้อที่ผ่านกระบวนการเตรียมน้ำเชื้อทำให้ได้เชื้อที่มีคุณภาพดีขึ้นเข้าโพรงมดลูกเป็นเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ตัดปัญหาจากกระบวนการของอสุจิที่ต้องผ่านปากมดลูกเข้าไปปฏิสนธิ 3.เด็กหลอดแก้ว (In-Vito Fertilization : IVF) เป็นเทคโนโลยีที่เก็บไข่จากฝ่ายหญิงและเตรียมอสุจิจากฝ่ายชาย…
การแบ่งเกรดตัวอ่อนวัดจากอะไร
เกรดตัวอ่อน มีความสำคัญต่อการทำเด็กหลอดแก้ว ICSI IVF
เมื่อพูดถึงกระบวนการคัดเลือกตัวอ่อน ถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการทำเด็กหลอดแก้ว IVF / ICSI คู่รักหลายคู่ที่ประสบกับภาวะมีบุตรยากและอยากมีลูก จึงมักตั้งคำถามว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ‘ตัวอ่อน’ นั้นเป็นตัวอ่อนที่ดีก่อนที่จะย้ายเข้าสู่โพรงมดลูก เพราะการที่จะประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ส่วนหนึ่งจะขึ้นอยู่กับตัวอ่อนที่มีคุณภาพ ก่อนอื่นคู่รักที่มีลูกยากและอยากมีลูกควรทำความเข้าใจก่อนว่า การรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว IVF / ICSI ภายหลังจากที่ไข่ผสมกับสเปิร์มแล้ว แพทย์จะนำไปเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการโดยนักเพาะเลี้ยงตัวอ่อนจะดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งในระยะเวลาพัฒนาตัวอ่อนก็อยู่ที่ประมาณ 5-6 วัน ในช่วงนี้ก็จะมีการแบ่งเกรดของตัวอ่อน ด้วยกัน 2 ระยะ ดังนี้
1.ระยะคลีเวจ (Cleavage)
เป็นระยะที่ตัวอ่อนเกิดการแบ่งตัว เป็นระยะหลังไข่กับสเปิร์มผสมกันแล้ว 24 – 72 ชั่วโมงเป็นระยะที่ไข่กับสเปิร์มผสมกันแล้ว 24 ชั่วโมงเป็นต้นไป จนไปถึงไม่เกินวันที่ 4 จะแบ่งเกรด โดยอ้างอิงตามมาตรฐานสากลจากเกณฑ์การให้คะแนนตัวอ่อนของ Istanbul Consensus Scoring System 2011 โดยจะมีการพิจารณาจากรูปร่างความสมมาตรของเซลล์ที่พบ สำหรับการแบ่งเกรดระยะนี้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ · คลีเวจ เกรด 1 (GOOD) เป็นตัวอ่อนที่มี blastomeres…
การทำ IUI คืออะไร
การทำ IUI ทางเลือกการรักษาภาวะมีบุตรยากสเต็ปแรกของคู่รักที่อยากมีลูก
ปัญหาการมีบุตรยาก กลายเป็นเรื่องปวดใจสำหรับคู่รักบางคู่ที่ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ด้วยวิธีทางธรรมชาติ ทั้งที่มีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ และไม่ได้คุมกำเนิดในช่วงระยะเวลา 1 ปี การทำ IUI เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคู่รักที่อยากมีลูก เพราะช่วยเพิ่มโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์ 10% แต่ในปัจจุบันการรักษาภาวะมีบุตรยาก มีให้เลือกหลายวิธี ทั้งเด็กหลอดแก้ว IVF (In-vitro Fertilization) และ IUI ซึ่งทั้งสองวิธีดังกล่าวมีกระบวนการที่แตกต่างกัน และมีส่วนช่วยเพิ่มโอกาสของการปฏิสนธิมากกว่าวิธีการทางธรรมชาติ
บทความนี้เราจะมาเจาะลึกถึงการทำ IUI เพื่อความเข้าใจถึงกระบวนการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธีการ IUI ที่มีทั้งข้อดีและข้อควรระวัง และความเหมาะสมสำหรับคู่รัก รวมทั้งการเตรียมตัวรักษา เพื่อประกอบการตัดสินใจของคู่รักที่อยากมีลูก
การทำ IUI คืออะไร
IUI : Intrauterine insemination หรือการฉีดเชื้อผสมเทียม เป็นการฉีดอสุจิเข้าโพรงมดลูก จัดว่าเป็นวิธีที่มีความใกล้เคียงกับวิธีธรรมชาติมากที่สุด เพราะ IUI คือการนำอสุจิที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นตัวที่แข็งแรงฉีดเข้าไปในโพรงมดลูกในวันที่ฝ่ายหญิงมีการตกไข่ โดยตัวอสุจิจะว่ายไปปฏิสนธิกับไข่ที่ท่อนำไข่เอง วิธีการรักษา IUI เป็นการสร้างโอกาสให้อสุจิได้ผสมกับไข่ได้ง่ายกว่าปกติ เพิ่มเปอร์เซ็นต์การประสบความสำเร็จในการปฏิสนธิ ซึ่งการทำ IUI ฝ่ายชายควรมีตัวอสุจิที่แข็งแรงหลังการผ่านการคัดกรองแล้ว 5-10 ล้านตัวขึ้นไป หากมีน้อยกว่านั้นโอกาสตั้งครรภ์จะน้อยตามไปด้วย
การรักษาแบบ IUI จะใช้เมื่อใด
การฉีดเชื้อผสมเทียมเป็นการรักษาเบื้องต้นของการรักษาภาวะมีบุตรยากจากหลายสาเหตุ เช่น ฝ่ายชายมีความผิดปกติ โดยมีจำนวนอสุจิน้อยหรือการเคลื่อนไหวของตัวอสุจิลดลง ฝ่ายหญิงมีภาวะปากมดลูกที่ไม่เป็นมิตร และมีปัญหามูกปากมดลูก คู่สมรสที่ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์เนื่องจากพิการ บาดเจ็บ…
ตัวช่วยสำหรับคนมีลูกยากมีกี่วิธี และมีวิธีอย่างไรบ้าง
Happy couple hand holding white blank space
IUI ICSI IVF ตัวช่วยการรักษาภาวะมีลูกยาก คำตอบของคนอยากมีลูก
การแต่งงาน ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในชีวิตคู่ และเป็นจุดเริ่มต้นของการวางรากฐานสร้างครอบครัวที่ประกอบไปด้วย ‘พ่อ แม่ ลูก’ ดังนั้นการวางแผนครอบครัวจึงมีความสำคัญมาก ก่อนที่คู่รักจะตัดสินใจเข้าประตูวิวาห์ สิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญเช่นกัน คือการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน เพื่อเตรียมตัวให้พร้อม สำหรับคู่รักที่อยากมีลูกและเติมเต็มชีวิตครอบครัวให้สมบูรณ์
ทำไมคู่รักควรตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน
ในปัจจุบันแนวโน้มการแต่งงานที่ช้าลง และประกอบกับการแต่งงานในช่วงอายุที่มากขึ้น อีกทั้งยังต้องเผชิญกับความเครียดในด้านของการทำงาน ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้สุขภาพของคู่รักหลายคู่ต้องเผชิญกับภาวะมีบุตรยาก หรือมีลูกยาก ดังนั้นการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง จึงเป็นการเช็คความพร้อมและความสมบูรณ์ของร่างกายหรือความบกพร่องทางพันธุกรรม
หากคู่รักมีสุขภาพที่ดี มีความพร้อมและความสมบูรณ์ของร่างกาย ก็จะส่งผลต่อความสมบูรณ์ในการตั้งครรภ์ และทำให้ทารกมีสุขภาพแข็งแรง นอกจากนี้แล้วการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ในกรณีที่คู่รักเผชิญกับภาวะมีบุตรยาก หรือเป็นโรคด้านพันธุกรรม จะช่วยทำให้คู่รักสามารถปรึกษาร่วมกับแพทย์ วางแผนการรักษาและการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับบุตรได้ถูกทาง
ประโยชน์การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน
1.ลดความเสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ช่วยลดความเสี่ยงโอกาสการส่งผ่านโรคสู่กันและกัน และลดความเสี่ยงการเกิดโรคแทรกซ้อนไปสู่คู่ชีวิต อีกทั้งลดการส่งผ่านโรคจากแม่สู่ลูกน้อยได้ด้วยเช่นกัน เพราะโอกาสการส่งผ่านโรคสู่กันและกันจะผ่านการมีเพศสัมพันธ์และผ่านทางเลือด เนื่องจากบางโรคอาจจะไม่แสดงอาการเด่นชัดในระยะแรก ๆ แต่สามารถตรวจพบได้จากการตรวจเลือด เช่น โรคซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบ หรือกระทั่งโรคเอดส์ เป็นต้น
2.หลีกเลี่ยงการถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรม…
อายุของแม่มีผลต่อการตั้งครรภ์หรือไม่
ตรวจโครโมโซมมีความสำคัญต่อคุณแม่ที่มีอายุมาก
ปัจจุบันด้วยค่านิยมของผู้หญิงไทยที่เปลี่ยนแปลงจากในอดีต ทั้งในด้านของการศึกษาที่ต้องเรียนให้จบ ความมุ่งมั่นเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพการงาน ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิงไทยแต่งงานช้าลง และการมีอายุที่เพิ่มขึ้นของฝ่ายหญิง เป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้คู่รักหลายคู่ต้องเผชิญกับภาวะมีบุตรยาก รวมทั้งเมื่อตั้งครรภ์ยังมีความเสี่ยงต่างๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ความผิดปกติโครโมโซมของทารกในครรภ์ ตลอดจนการเกิดภาวะแทรกซ้อนในตัวคุณแม่ที่มีผลต่อเด็กในครรภ์
ทำไมอายุมากมีความเสี่ยงต่อการมีลูกยาก
อายุและภาวะเจริญพันธุ์ของผู้หญิงมีความสัมพันธ์กัน แม้ว่าผู้หญิงจะเกิดมาพร้อมกับไข่จำนวนมากกว่า 1 ล้านฟอง และจำนวนนั้นจะลดลงตามธรรมชาติเมื่ออายุมากขึ้น คุณภาพของไข่ที่คุณมีก็ลดลงเช่นกัน และภาวะเจริญพันธุ์ก็จะลดลงตามไปด้วย ผู้หญิงจะมีแนวโน้มเจริญพันธุ์มากที่สุดในช่วงอายุ 20 ปี และภาวะเจริญพันธุ์ของคุณเริ่มลดลงเมื่ออายุประมาณ 32 ปี และลดลงอย่างรวดเร็วมากขึ้นเมื่ออายุประมาณ 35 ปี โดยมีโอการตั้งครรภ์ดังนี้
· ผู้หญิงในช่วงอายุ 20 กลางๆจะมีโอกาสตั้งครรภ์ 20% ที่จะตั้งครรภ์หลังจากคู่รักพยายามมา 3 เดือน
· ผู้หญิงในช่วงอายุ 35 ปี มีโอกาสตั้งครรภ์ตามธรรมชาติเหลือเพียง 12% หลังจากคู่รักพยายาม 3เดือน
· ผู้หญิงในช่วงอายุหลัง 40…
เหตุที่ Success Rate การทำ ICSI ของเราได้ผลสูง
มีลูกยาก ทำ ICSI กับ GFC เพิ่มโอกาสการสำเร็จการตั้งครรภ์
คู่รักที่ประสบกับภาวะมีบุตรยาก เมื่อเข้ารับการรักษาด้วยเทคโนโลยีเพื่อช่วยการเจริญพันธุ์โดยทำ IUI และ IVF แต่ไม่ประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ การรักษาอีกทางเลือกหนึ่งก็คือการทำ ICSI ซึ่งจะช่วยให้คู่รักสามารถประสบความสำเร็จการตั้งครรภ์ที่สูงขึ้น เนื่องจากโอกาสปฏิสนธิสำเร็จของการทำ ICSI อยู่ที่ 30 – 40% นับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับวิธีการรักษาด้วย IUI และ IVF
โอกาสที่คู่รักมีลูกยากและอยากมีลูกประสบความสำเร็จจากการตั้งครรภ์ด้วยการทำ ICSI ที่สูงขึ้น ทำให้ปัจจุบันการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วย ICSI ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยมีโรงพยาบาล ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก คลินิกบริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยาก ให้บริการคำปรึกษาและรักษาภาวะมีบุตรยาก ด้วยการทำ ICSI อย่างแพร่หลาย
ทำไมอิ๊กซี่ (ICSI) เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์
อิ๊กซี่ (ICSI) หรือ Intracytoplasmic Sperm Injection เป็นการปฏิสนธิที่ไม่ได้เกิดจากการเลี้ยงเซลล์ไข่และอสุจิร่วมกัน แต่เป็นการฉีดอสุจิเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง จากนั้นทำการเพาะเลี้ยง แล้วย้ายตัวอ่อนเข้าสู่มดลูก หลายคนสงสัยว่าโอกาสสำเร็จการตั้งครรภ์ ICSI ถึงสูงกว่าเมื่อเทียบกับการรักษาด้วย IVF และ IUI ที่ผ่านมาคู่รักคิดว่าการฉีดอสุจิเข้าไปในไข่โดยตรง จะเกิดการปฏิสนธิได้ 100% แต่การที่อสุจิถูกฉีดเข้าไปในไข่ เซลล์ไข่อาจไม่ได้แบ่งตัวและกลายเป็นตัวอ่อน การรักษาภาวะมีบุตรยากด้วย ICSI นักวิทยาศาสตร์ ดำเนินการตรวจสอบไข่ที่เหมาะสมสำหรับการปฏิสนธิ ด้วยกล้องจุลทรรศน์ เพื่อประเมินโครงสร้างภายในไข่อยู่ในระยะการพัฒนาหรือไม่ และจะดำเนินการคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงที่สุดจำนวน 1…
เช็คลิสต์ให้พร้อมก่อนการฝากไข่ ในวันเก็บไข่
การฝากไข่ ถือว่าเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญในการรักษาภาวะมีบุตรยากของคู่รักที่อยากมีลูก รวมทั้งคู่รักที่ยังไม่พร้อมมีลูกและรอการสร้างอนาคตในวันข้างหน้า จึงต้องการฝากไข่ เก็บไข่ ไว้เพื่อลดความเสี่ยงการมีลูกยาก เพราะเมื่อผู้หญิงมีอายุโดยเฉลี่ยที่ 35 ปีขึ้นไป ความเสื่อมของร่างกายก็มากขึ้นทำให้โอกาสในการมีลูกก็ยาก
ปัจจุบันการฝากไข่จึงเริ่มได้ความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะคู่รักที่ยังเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ และต้องการวางแผนครอบครัว โดยกำหนดช่วงเวลาความพร้อมในการตั้งครรภ์ หรือต้องการทำเด็กหลอดแก้วในอนาคต จึงมีความสนใจการฝากไข่ หรือ การแช่แข็งเก็บรักษาเซลล์ไข่ (Egg Freezing)
การฝากไข่ หรือEgg Freezingคืออะไร
ฝากไข่ (Oocyte Cryopreservation หรือ Egg Freezing) คือ การนำเซลล์ไข่ของผู้หญิงที่มีอยู่ภายในร่างกาย ออกมาแช่แข็งไว้เพื่อหยุดอายุเซลล์สืบพันธ์ ป้องกันการเสื่อมสภาพตามอายุ เพราะแม้ว่าผู้หญิงที่เข้าสู่วัยรุ่นในแต่ละเดือนจะมีการตกไข่เดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งเซลล์ไข่นี้ถูกสร้างตั้งแต่ยังเป็นทารกอยู่ในครรภ์ถึง 6-7 ล้านฟอง แต่เมื่อทารกเพศหญิงคลอดออกมาแล้วจะเหลือไข่เพียง 2 ล้านฟอง เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น เซลล์ไข่เหล่านั้นจะเหลือเพียง 2-5 แสนฟอง และจะมีเซลล์ไข่ที่ทำให้ตั้งครรภ์ได้เพียง 400-500 ฟองเท่านั้น ส่วนไข่ใบอื่นๆ จะสลายและฝ่อไป ยิ่งเราอายุมากขึ้นเซลล์ไข่ยิ่งเสื่อมลง ทำให้เกิดปัญหามีลูกยากและเด็กที่เกิดมาไม่แข็งแรง เหตุผลที่ทำให้ผู้หญิงหันมาวางแผนมีลูกและเริ่มฝากไข่มากขึ้น เพราะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคุณผู้หญิงที่ยังไม่พร้อมตั้งครรภ์ แต่ต้องการตั้งครรภ์ในอนาคต และการฝากไข่ยังเป็นทางเลือกของผู้หญิงที่กำลังจะได้รับยาเคมีบำบัด หรือฉายแสง ที่กระทบต่อจำนวนไข่และคุณภาพเซลล์ไข่ อันเนื่องจากมีโรคประจำตัวที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเจริญพันธุ์ในปัจจุบันและรอความพร้อมของร่างกายเพื่อการตั้งครรภ์ในอนาคต
การเตรียมความพร้อมก่อนการเก็บไข่…