Skip to content Skip to footer

การเตรียมความพร้อมก่อนการฝากไข่

เช็คลิสต์ให้พร้อมก่อนการฝากไข่ ในวันเก็บไข่

การฝากไข่ ถือว่าเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญในการรักษาภาวะมีบุตรยากของคู่รักที่อยากมีลูก รวมทั้งคู่รักที่ยังไม่พร้อมมีลูกและรอการสร้างอนาคตในวันข้างหน้า จึงต้องการฝากไข่ เก็บไข่ ไว้เพื่อลดความเสี่ยงการมีลูกยาก เพราะเมื่อผู้หญิงมีอายุโดยเฉลี่ยที่ 35 ปีขึ้นไป ความเสื่อมของร่างกายก็มากขึ้นทำให้โอกาสในการมีลูกก็ยาก

ปัจจุบันการฝากไข่จึงเริ่มได้ความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะคู่รักที่ยังเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ และต้องการวางแผนครอบครัว โดยกำหนดช่วงเวลาความพร้อมในการตั้งครรภ์ หรือต้องการทำเด็กหลอดแก้วในอนาคต จึงมีความสนใจการฝากไข่ หรือ การแช่แข็งเก็บรักษาเซลล์ไข่ (Egg Freezing)

การฝากไข่ หรือEgg Freezingคืออะไร

ฝากไข่ (Oocyte Cryopreservation หรือ Egg Freezing) คือ การนำเซลล์ไข่ของผู้หญิงที่มีอยู่ภายในร่างกาย ออกมาแช่แข็งไว้เพื่อหยุดอายุเซลล์สืบพันธ์ ป้องกันการเสื่อมสภาพตามอายุ เพราะแม้ว่าผู้หญิงที่เข้าสู่วัยรุ่นในแต่ละเดือนจะมีการตกไข่เดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งเซลล์ไข่นี้ถูกสร้างตั้งแต่ยังเป็นทารกอยู่ในครรภ์ถึง 6-7 ล้านฟอง แต่เมื่อทารกเพศหญิงคลอดออกมาแล้วจะเหลือไข่เพียง 2 ล้านฟอง เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น เซลล์ไข่เหล่านั้นจะเหลือเพียง 2-5 แสนฟอง และจะมีเซลล์ไข่ที่ทำให้ตั้งครรภ์ได้เพียง 400-500 ฟองเท่านั้น ส่วนไข่ใบอื่นๆ จะสลายและฝ่อไป ยิ่งเราอายุมากขึ้นเซลล์ไข่ยิ่งเสื่อมลง ทำให้เกิดปัญหามีลูกยากและเด็กที่เกิดมาไม่แข็งแรง
เหตุผลที่ทำให้ผู้หญิงหันมาวางแผนมีลูกและเริ่มฝากไข่มากขึ้น เพราะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคุณผู้หญิงที่ยังไม่พร้อมตั้งครรภ์ แต่ต้องการตั้งครรภ์ในอนาคต และการฝากไข่ยังเป็นทางเลือกของผู้หญิงที่กำลังจะได้รับยาเคมีบำบัด หรือฉายแสง ที่กระทบต่อจำนวนไข่และคุณภาพเซลล์ไข่ อันเนื่องจากมีโรคประจำตัวที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเจริญพันธุ์ในปัจจุบันและรอความพร้อมของร่างกายเพื่อการตั้งครรภ์ในอนาคต

การเตรียมความพร้อมก่อนการเก็บไข่

ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ฝ่ายหญิงควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการเก็บไข่ เพื่อให้การผลิตไข่ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด ซึ่งการเก็บไข่ที่มีคุณภาพดี ทีมแพทย์จะนำเซลล์ไข่แช่แข็ง (Egg Freezing) ไว้อย่างน้อยควรมีราว 15-20 ใบ เพื่อที่จะได้มีโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์ 1 ครั้ง โดยความสำเร็จของการตั้งครรภ์จะขึ้นอยู่กับจำนวนและคุณภาพไข่ ณ ช่วงอายุที่แช่แข็ง ยิ่งหากฝ่ายหญิงมีอายุน้อยโอกาสสำเร็จจะสูง ดังนั้นก่อนการเก็บไข่ ฝ่ายหญิงควรมีวิธีดูแลตัวเอง ดังนี้
· พักผ่อนให้เพียงพอ ก่อนการเก็บไข่ฝ่ายหญิงควรพักผ่อนให้เพียงพอวันละไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง ในระหว่าง 1-2 วัน เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเก็บไข่ โดยไม่ควรนอนเกิน 5 ทุ่ม เพราะการพักผ่อนจะช่วยให้ร่างกายสามารถผลิตไข่ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้น
· ไม่ควรเครียดหรือกังวล ทำจิตใจให้สดชื่น เพราะจะส่งผลต่อฮอร์โมนภายในระบบสืบพันธุ์โดยตรง โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีส่วนช่วยในการผลิตไข่ ความเครียดหรือกังวลจะไปรบกวนการทำงานของระบบสืบพันธุ์ ทำให้ไข่ไม่ตกตามที่ต้องการ และยังทำให้ไข่ไม่มีคุณภาพ
· รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควรเลือกทานอาหารที่มีสารอาหารโดยตรงที่จะช่วยบำรุงให้ไข่มีความสมบูรณ์ และแข็งแรง พร้อมต่อการปฏิสนธิเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น อาทิ อาหารที่มีโปรตีน เพราะทำให้ไข่มีความสมบูรณ์รวมทั้งลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการกระตุ้นรังไข่

· งดดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มคาเฟอีน ในการกระตุ้นผลิตไข่ ควรงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และมีส่วนผสมของคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชาเขียว ช็อกโกแลต และโกโก้ เนื่องจากส่วนผสมเหล่านี้ มีผลโดยตรงต่อการทำงานของยาที่ทำหน้าที่กระตุ้นไข่ ซึ่งทำให้การกระตุ้นได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
· ควรฉีดยาให้ตรงเวลา การฉีดยาการกระตุ้นผลิตไข่ เป็นการเพื่อช่วยรักษาปริมาณตัวยาในกระแสเลือดให้คงที่ ขั้นตอนนี้มีความสำคัญมาก เพราะสามารถเพิ่มโอกาสความสำเร็จให้สูงขึ้นได้ ฝ่ายหญิงต้องมาให้ตรงเวลาทุกครั้ง โดยคลาดเคลื่อนได้ไม่เกิน 1-2 ชั่วโมง นอกจากนี้การฉีดยากระตุ้นตรงเวลาทุกครั้ง ช่วยทำให้แพทย์สามารถคำนวนเวลาที่ไข่จะตกเพื่อเก็บได้ง่ายยิ่งขึ้น
· งดการออกกำลังกายหนัก หลังจากที่เกิดการกระตุ้นไข่ควรงดออกกำลังกายหนักๆ โดยเฉพาะการออกกำลังด้วยการเล่นโยคะร้อน เป็นต้น
· ทานอาหารเสริม ในระหว่างการเก็บไข่ เซลล์ในรังไข่ที่ผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะถูกกำจัดออกไปพร้อมกับไข่ นอกอกจากนี้ ควรทานอาหารเสริมที่มีประโยชน์ ได้แก่ กรดโฟลิค (Folic acid) แอสต้าแซนธิน (Astaxanthin) วิตามิน ซี (Vitamin C) วิตามินดี 3 (Vitamin D3) วิตามินบี 12 (Vitamin B12) เป็นต้น เพราะซึ่งอาหารเสริมเหล่านี้จะช่วยเพิ่มคุณภาพของไข่ในผู้หญิง และลดโอกาสเด็กในครรภ์พิการ

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนเก็บไข่

· งดดื่มน้ำอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ก่อนการเก็บไข่ ฝ่ายหญิงต้องงดการดื่มน้ำอย่างน้อย 8 ชั่วโมง
· ทำความสะอาดร่างกาย และอวัยวะเพศภายนอกก่อนมาเก็บไข่ ในกรณีที่ทาเล็บควรล้างสีเล็บออก งดการแต่งหน้าหรือทาแป้งฝุ่น งดใส่น้ำหอม และงดใส่คอนแทคเลนส์ ทุกชนิด ก่อนเก็บไข่
· ปรึกษาแพทย์เมื่อต้องทานยา การเก็บไข่จะถูกนำออกจากรังไข่ประมาณ 34 – 36 ชั่วโมง ดังนั้นหากคุณรับประทานยาเป็นประจำ (เช่น ยาแก้แพ้) ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลเกี่ยวกับการรับประทานยาในวันที่เก็บไข่
· เจ้าหน้าที่จะนัดมาก่อน 1 – 2 ชั่วโมง เพื่อเตรียมตัวในการเก็บไข่ ควรมาให้ตรงเวลาเพราะถ้ามาช้าจะมีผลต่อการเก็บไข่ รวมทั้งควรมีผู้ดูแลมาด้วย 1 คน เพื่อคอยดูอาการช่วงเวลาการเดินทางกลับบ้าน

ขั้นตอนการเก็บไข่ (Oocyte retrieval)

พยาบาลจะดำเนินการซักประวัติและทวนสอบชื่อ-สกุล พร้อมทั้งดำเนินการวัดสัญญาณชีพ ทั้งความดัน การหายใจ ชีพจรและอุณหภูมิร่างกาย โดยจะมีวิสัญญีแพทย์ฉีดยาเพื่อให้ผู้ป่วยหลับ หลังจากนั้นแพทย์จะทำการเก็บไข่ โดยใช้วิธีอัลตราซาวด์เพื่อให้ดูตำแหน่งไข่ได้อย่างชัดเจน และเก็บผ่านทางช่องคลอด หลังจากนั้นจึงค่อยดูดออกมาให้ครบทุกใบ โดยขั้นตอนเก็บไข่ใช้ระยะเวลา15-20 นาที

สำหรับอาการข้างเคียงภายหลังเก็บไข่ ผู้รับบริการอาจมีอาการคลื่นไส้ ปวดหน่วงท้องน้อย แน่นท้อง หรือมีเลือดออกทางช่องคลอดได้เล็กน้อย หากมีอาการปวดท้องสามารถรับประทานยาแก้ปวดพาราเซตามอลได้ แต่หากมีอาการผิดปกติเหล่านี้ควรกลับมาพบแพทย์ทันที เช่น ปวดท้องมาก คลื่นไส้อาเจียนมาก ไข้สูง หน้ามืดเป็นลม

ขั้นตอนการฝากไข่ หรือ Egg Freezing

เมื่อแพทย์ดำเนินการดูดเซลล์ไข่จากฝ่ายหญิงออกมา และนำเอาหลอดแก้วบรรจุเซลล์ไข่ไว้ จากนั้นจะนำไปแช่แข็งไว้ที่อุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียส โดยเซลล์ไข่แช่แข็ง (Egg Freezing) สามารถฝากไข่ได้สูงสุดถึง 5 – 10 ปี (ขึ้นอยู่กับอายุ และคุณภาพของคนไข้) และเมื่อผู้ฝากไข่ต้องการตั้งครรภ์ จะนำไข่ออกมาเพื่อใช้ปฏิสนธิกับอสุจิฝ่ายชาย ซึ่งข้อดีของการฝากไข่ (Egg Freezing) ยังช่วยลดโอกาสที่เด็กจะเกิดมามีความผิดปกติของโครโมโซมและดาวน์ซินโดรม ตลอดจนการเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์เมื่ออายุมากขึ้น และช่วยให้คู่รักสามารถวางแผนการมีลูกหรือกำหนดช่วงอายุที่จะตั้งครรภ์ได้
หากคุณคือคู่รักที่มีลูกยากและอยากมีลูก หรือเป็นคู่รักที่ยังไม่พร้อมมีลูกแต่ต้องการฝากไข่ ไว้ใช้ในอนาคต Genesis Fertility Center คลินิกสำหรับผู้มีบุตรยาก มีทุกบริการเพื่อแก้ปัญหามีบุตรยาก ตั้งแต่การตรวจหาสาเหตุ ตลอดจนการเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสม หรือบริการฝากไข่ พร้อมประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้นอย่างโปร่งใส

สามารถปรึกษาได้ที่

Call Center 097-484-5335
เวลาทำการ : จันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 20.00 น. หรือ
เสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.00 – 20.00 น.